อพวช. รับช่วงต่อ “น้องมาเรียม” สตัฟฟ์เพื่อการศึกษา ผลักดันการอนุรักษ์สัตว์ทะเลก่อนนำเป็นกรณีศึกษาแก่ประชาชน

ข่าวประจำวันที่: 
Tue 27 August 2019

องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) โดยพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา รับร่างพะยูนน้อย “น้องมาเรียม” จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งเสียชีวิตจากการกินขยะพลาสติกในท้องทะเลไทยเตรียมทำการสตัฟฟ์เพื่อการศึกษา หวังให้ประชาชนตระหนักและให้ความสำคัญกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมากยิ่งขึ้นต่อไป

ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า “อพวช. เป็นหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ โดยมีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเป็นศูนย์กลางการศึกษาวิจัยด้านธรรมชาติวิทยาของประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง อีกทั้งยังเป็นศูนย์จัดแสดงนิทรรศการความหลากหลายทางชีวภาพ มีการสตัฟฟ์สัตว์เพื่อการเก็บรักษา และจัดแสดงผ่านตัวอย่างสัตว์สตัฟฟ์เกือบทุกกลุ่ม ซึ่งการสตัฟฟ์สัตว์เป็นการใช้เทคนิคทางวิทยาศาสตร์ผสานกับศิลปะทำให้สัตว์ที่ตายแล้วมีท่าทางเสมือนยังมีชีวิตในอิริยาบถที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติที่สุด ซึ่งทาง อพวช. ถือเป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสตัฟฟ์สัตว์อันดับต้นๆ ของประเทศ ที่มุ่งมั่นทำการศึกษาและพัฒนาด้านนี้อย่างจริงจังมาโดยตลอด”

ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา กล่าวว่า “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาได้ให้ความความสำคัญงานด้านการศึกษาวิจัยด้านธรรมชาติวิทยาและการเก็บรักษาวัสดุตัวอย่างด้านธรรมชาติวิทยามาโดยตลอด โดยเฉพาะการสตัฟฟ์สัตว์ด้วยเทคนิคสมัยใหม่อย่าง Taxidermy ด้วยความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา อพวช. ได้ทำการสตัฟฟ์สัตว์และนำมามาจัดแสดงนิทรรศการมากมาย ถือเป็นมิติใหม่ของแนวทางการจัดนิทรรศการด้านธรรมชาติวิทยาของประเทศไทย ในกรณีของน้องมาเรียม ทางด้านทีมนัก Taxidermy ผู้เชี่ยวชาญ​ด้าน​สตัฟฟ์​สัตว์ของ​ อพวช.​ กำลังวางแผนและหารือเรื่องวิธีการที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้สมบูรณ์และดีที่สุด โดยจะดำเนินการสตัฟฟ์​หลังงามหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2562 เสร็จสิ้นลง ซึ่งคาดว่าการสตัฟฟ์​น้องมาเรียมจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน จึงจะแล้วเสร็จ”

ด้านนายวัชระ สงวนสมบัติ ผู้อำนวยการกองวัสดุอุเทศธรรมชาติวิทยา นัก Taxidermy ผู้เชี่ยวชาญ​ด้าน​สตัฟฟ์​สัตว์ของ​ อพวช.​ กล่าวว่า “ขณะนี้ อพวช. ได้เก็บรักษาน้องมาเรียมลูกพะยูนเอาไว้ในห้องแช่แข็งลบ 20 องศา เพื่อคงสภาพผิวหนังของมาเรียมไม่ให้เน่าเปื่อย ส่วนเรื่องการสตัฟฟ์นั้นต้องรอปรึกษากับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายอีกครั้งก่อนทำการสตัฟฟ์ โดยการสตัฟฟ์​สัตว์ คือ การนำหนังของสัตว์ที่ตายลงมาทำการรักษาสภาพ​ใว้ให้ใกล้เคียง​กับตอนมีชีวิต​ ในสภาพการเก็บแบบแห้ง​ โดยไม่มีโครงกระดูกและกระโหลกศีรษะ การสตัฟฟ​สัตว์ต้องใช้ทั้งศาสตร์​และศิลป์​ เพื่อให้ผลงานออกมาเหมือนจริง​มาก​ที่สุด​ โดยเฉพาะ​ Anatomy กายวิภาค​เฉพาะ​ของสัตว์​ชนิดนั้นๆ​ สัตว์สตัฟฟ์จะต้องได้รับการดูแลรักษา​อย่างดี​ ไม่ให้ชำรุดเสียหาย​ จากความร้อน​ ความชื้น​ แมลง​ เชื้อรา​ หนูและแมลงสาบ ที่อาจทำความเสียหายต่อสัตว์สตัฟฟ์ได้

ซึ่งความยากของการสตัฟฟ์ครั้งนี้ คือการรักษาสภาพหนังของมาเรียม​ เพราะ​หนังของสัตว์​เลี้ยง​ลูก​ด้ว​ยนม​ในทะเล​ เช่น​ วาฬ​ โลมา และพะยูนนั้น​ จะมีไขมันค่อนข้างหนามากแทรกอยู่​ จึงมีความยากกว่าการสตัฟฟ์​สัตว์​บก​ จึงต้องนำหนังผ่านกระบวนการเพื่อให้ไขมันออกจากหนังให้มากที่สุด​ มิฉะนั้นหนังจะเปียกเยิ้ม​ ไม่แห้ง​ และไม่สามารถ​ขึ้นรูปให้คงสภาพตามที่ต้องการได้ อีกทั้งจะเกิดการเปื่อยยุ่ย​ ขึ้นรา​ เน่า​เสีย หรือเสียหายได้ง่าย​ และยังต้องใช้การขึ้นรูปให้เสมือนจริงที่สุด​ รวมถึงเย็บผิวหนังและตกแต่งลักษณะ​ภายนอกให้ถูกต้องและสวยงามอีก​ด้วย นอกจากการสตัฟฟ์แล้ว​ ยังสามารถต่อโครงกระดูกน้องมาเรียมเก็บไว้ศึก​ษาต่อได้อีกโดยทำหุ่นจำลองไว้หลายๆ ที่ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และจดจำน้องมาเรียมตลอดไป”

ปัจจุบันขยะพลาสติกในทะเล นับเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกที่สร้างความเสียหายต่อทรัพยากรทางทะเลอย่างมาก มีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดที่ได้รับผลกระทบจากขยะที่ถูกทิ้งลงสู่ทะเลทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่งผลทำให้เกิดวิกฤตปัญหาขยะทะเลที่ส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ทะเลหายาก อย่าง เต่าทะเล พะยูน โลมา และวาฬ ที่กำลังเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากหนึ่งการสูญพันธุ์ นำไปสู่การสูญสิ้นอันเนื่องมาจากสายใยในห่วงโซ่อาหารเพียงเส้นเดียวต้องขาดสะบั้น ทั้งนี้ อพวช. ตระหนักถึงปัญหาและให้ความสำคัญถึงปัญหานี้จึงได้จัดแสดงนิทรรศการพลาสติกพลิกโลก (Plastic Changed the World) ขึ้นภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำเป็น 2562 โดยจัดแสดงเกี่ยวกับขยะพลาสติกซึ่งเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ พร้อมร่วมค้นหาคำตอบว่าทำไมพลาสติกสารพัดประโยชน์จึงกลายเป็นผู้ทำลายสิ่งแวดล้อมและส่งผลกระทบกลับมาทำร้ายมนุษย์ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้สังคมได้เห็นถึงปัญหาขยะทะเลมากยิ่งขึ้น และอีกหนึ่งนิทรรศการที่น่าสนใจ อย่างนิทรรศการพินิจ พิพิธ-พันธุ์ (Biodiversity AMUSUE-um) ที่ชวนมาเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพผ่านการจัดแสดงในรูปแบบของ Collection base ที่จัดแสดงการจัดเก็บความหลากหลายทางชีวภาพในรูปแบบของตัวอย่างดอง, ตัวอย่างแห้ง และสัตว์สตัฟฟ์ ซึ่งเสมือนยกพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยามาจัดแสดงอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับผู้สนใจมาศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมสามารถมาเยี่ยมชมได้ใน “งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำเป็น 2562” ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ - 25 สิงหาคม 2562 เวลา 09.00 - 19.00 น.

ข้อมูลข่าวโดย : องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)

URL: 
https://www.mhesi.go.th/home/index.php/pr/news/409-2019-08-26-06-47-23