ถ้าต้องลดหวานจะทานอะไรแทนน้ำตาลดี ?

วันที่เผยแพร่: 
Mon 26 March 2018

การลดหวาน ส่วนใหญ่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตและผู้ต้องการลดน้ำหนัก เนื่องจากต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล 
สารให้ความหวานแทนน้ำตาลจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนในกลุ่มนี้

สารให้ความหวานแทนน้ำตาล (sweetener) เป็นสารเคมีซึ่งให้รสหวานใช้แทนน้ำตาล ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ และไม่ให้พลังงาน แต่เป็นสารที่มี
คุณค่าทางการแพทย์ นอกจากนั้นยังใช้เป็นเครื่องปรุงรสอาหารสำหรับผู้เป็นโรคอ้วน และใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาหาร เพื่อลดต้นทุนการผลิต สารให้
ความหวานที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมี 3 ชนิด ได้แก่
 

• แอสปาแตม (Aspartame) เป็นน้ำตาลเทียมที่ทำมาจากสารเคมี องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ยอมรับสารแอสปาแตม
เมื่อปี ค.ศ. 1980 และอนุญาตให้ใช้แอสปาแตมผสมในน้ำอัดลมได้ในปี ค.ศ. 1983 แอสปาแตมให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 160 - 220 เท่า 
มีรสชาติใกล้เคียงกับน้ำตาลทราย ไม่ทำให้เกิดภาวะฟันผุและไม่กระตุ้นให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ผู้ผลิตจึงนิยมนำมาใส่ในน้ำอัดลม ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์
อาหารและยาที่มีแอสปาแตมเป็นส่วนประกอบมากกว่า 6,000 ชนิดทั่วโลก อย่างไรก็ตามเมื่อแอสปาแตมได้รับความร้อนหรือเก็บไว้เป็นเวลานาน อาจส่งผล
ให้โครงสร้างของแอสปาแตมเปลี่ยนแปลงไปได้ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้แอสปาแตมปรุงอาหารที่ตั้งไฟร้อน ๆ และไม่ควรเก็บไว้นาน 
• ซูคราโลส (Sucrarose) เป็นสารให้ความหวานที่ไม่จัดเป็นสารอาหาร เนื่องจากซูคราโลสไม่สามารถย่อยได้จึงไม่มีการปลดปล่อยพลังงานให้กับร่างกาย 
ถูกคิดค้นสำเร็จในปี ค.ศ. 1976 และนำมาใช้ครั้งแรกในประเทศแคนาดา นักวิทยาศาสตร์พบว่าซูคราโลสมีความหวานประมาณ 600 เท่าของน้ำตาลทราย 
และยังเป็นสารให้ความหวานที่มีความปลอดภัยเทียบเท่ากับน้ำตาลธรรมชาติเนื่องจากไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย แต่ในกระบวนการผลิตซูคราโลสมีการเพิ่ม
คลอรีนเข้าไปในโมเลกุลน้ำตาล ซึ่งคลอรีนนี้เองจะทำให้กระเพาะอาหารไวต่อสิ่งกระตุ้นมากขึ้น และอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ 
• หญ้าหวาน (Stevia) เป็นสารแทนความหวานที่ดีที่สุดและเป็นธรรมชาติที่สุด มีนำมาใช้เป็นสารทดแทนความหวาน เมื่อปี ค.ศ. 1964 หญ้าหวานให้ความ
หวานมากกว่าน้ำตาลทราย 250 – 300 เท่า และสามารถทนความร้อนได้ถึง 200 องศาเซลเซียสโดยที่ความหวานไม่สลายตัว มีรายงานเกี่ยวกับหญ้าหวาน 
อีกว่าเป็นสารทดแทนความหวานที่ปลอดภัยและไม่พบอาการแทรกซ้อน นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยังได้รับรองและอนุญาตให้
สกัดสารสตีวิโอไซด์ (stevioside) ซึ่งเป็นสารที่สกัดได้จากหญ้าหวาน มาขึ้นทะเบียนเป็นสารแทนน้ำตาลได้

สารให้ความหวานแทนน้ำตาลแม้จะดูว่ามีประโยชน์และนำมาใช้แทนที่น้ำตาล สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักได้นั้น แต่หากบริโภคใน
ปริมาณที่มากจนเกินไปอาจทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายได้ เพราะสารให้ความหวานแทนน้ำตาลบางชนิด ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการเลย โดยเฉพาะผู้บริโภค
ทั่ว ๆ ไป การใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลจึงไม่ใช่ความจำเป็น แต่เป็นเพียงทางเลือกเท่านั้น

QR Code for https://www.stkc.go.th/stiarticle/%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%B5
เจ้าของข้อมูล: 
http://www.nsm.or.th/index.php?option=com_k2&view=item&id=6797:2018-02-28-09-55-51&Itemid=315
Hits 368 ครั้ง