แผ่นดินไหวส่งแรงสั่นสะเทือนถึงอีกฝั่งของโลกได้ใน 3 วัน

วันที่เผยแพร่: 
Thu 16 August 2018

Rescue personnel search for survivors at the site of a collapsed building on February 6, 2016 in Tainan, Taiwan. A magnitude 6.4 earthquake hit southern Taiwan

แม้อาฟเตอร์ช็อก (Aftershock) หรือการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นตามหลังเหตุแผ่นดินไหวจะเป็นเรื่องปกติที่พบได้ในบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ แต่ล่าสุดนักธรณีวิทยาต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่าเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงแต่ละครั้งสามารถส่งคลื่นสะเทือนที่ทำให้เกิดการสั่นไหวได้ไกลถึงอีกซีกโลกหนึ่ง ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออริกอนสเตทของสหรัฐฯ ตีพิมพ์ผลการศึกษาเรื่องดังกล่าวลงในวารสาร Nature Scientific Reports โดยระบุว่าได้วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุแผ่นดินไหวย้อนไปในอดีตตลอด 44 ปีที่ผ่านมา และพบว่าหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 6.5 ขึ้นไป มักมีแนวโน้มที่จะเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.0 หรือรุนแรงกว่าตามมาในอีกฝั่งหนึ่งของโลก ซึ่งมักจะเกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 2-3 วันให้หลัง

ดร. โรเบิร์ต โอมัลลีย์ ผู้นำทีมวิจัยระบุว่า "แผ่นดินไหวเป็นส่วนหนึ่งของวงจรที่แผ่นเปลือกโลกสะสมแรงเค้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อรอยเลื่อนที่แผ่นเปลือกโลกมาบรรจบกันใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดของวงจรนี้ แรงเค้นจะเพิ่มสูงจนถึงจุดที่ต้องปลดปล่อยออกมาและเกิดแผ่นดินไหวได้"

Italy Earthquake August 2016: Rubble in Amatrice, central Italy, following a 6.2 magnitude earthquake, August 24th 2016Image copyrightEPA

คำบรรยายภาพภาพจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.2 ทางภาคกลางของอิตาลี เมื่อเดือน ส.ค. 2016

"ยิ่งเหตุแผ่นดินไหวมีความรุนแรงมากขึ้นเท่าใด การสั่นสะเทือนที่เกิดตามมาในอีกซีกโลกหนึ่งยิ่งมีขนาดหรือแมกนิจูดมากขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา มักเกิดเหตุแผ่นดินไหวตามหลังที่รุนแรงเกือบทั้งสิ้น โดยจะเกิดภายในพื้นที่ 30 องศา วัดจากจุดตรงข้ามกับศูนย์กลางแผ่นดินไหวซึ่งเกิดก่อนในอีกซีกโลกหนึ่ง" ดร. โอมัลลีย์กล่าว

อย่างไรก็ดีนักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบชัดถึงสาเหตุและกลไกที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์เช่นนี้ขึ้น แม้ก่อนหน้านี้จะพบว่าพลังงานจากคลื่นสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวสามารถสะท้อนลึกลงไปในชั้นเนื้อโลกหรือแมนเทิล (Mantle) ได้ก็ตาม

ตัวอย่างหนึ่งของเหตุการณ์ลักษณะนี้ คือเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 2004 ซึ่งมีจุดศูนย์กลางนอกชายฝั่งเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย และมีความรุนแรงจนทำให้เปลือกโลกทั้งแผ่นเคลื่อนตัวขึ้นลงช้า ๆ ราว 1 เซนติเมตร และทำให้โลกทั้งใบ "สั่นไหวเหมือนกับตีระฆัง" ส่งผ่านพลังงานซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวตามมาในอีกซีกโลกได้ แต่คลื่นสั่นสะเทือนนี้จะเคลื่อนที่ช้ามากจนมนุษย์ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติแต่อย่างใด

QR Code for https://www.stkc.go.th/stiarticle/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%99-3-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99
เจ้าของข้อมูล: 
https://www.bbc.com/thai/features-45081891
Hits 352 ครั้ง