แพทย์อเมริกันแนะแนวทางใหม่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล

วันที่เผยแพร่: 
Mon 13 January 2020

การศึกษาฉบับใหม่ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงคำแนะนำด้านสุขภาพอาจนำไปสู่การลดระดับคอเลสเตอรอล และช่วยให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหัวใจได้รับการรักษาได้ดียิ่งขึ้น

โรคหัวใจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก และคอเลสเตอรอลในระดับที่สูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคนี้ โดยที่ผ่านมา แพทย์ให้การรักษาผู้ป่วยโดยดูที่ระดับคอเลสเตอรอลตัวร้าย หรือที่เรียกว่า LDL

ในปีพ.ศ. 2556 แนวทางปฏิบัติใหม่ในสหรัฐฯ แนะให้แพทย์ตรวจสอบความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจโดยรวม หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง แนวทางปฏิบัตินี้แนะนำให้แพทย์พิจารณาอายุ ความดันโลหิต อาการของโรคเบาหวาน และปัจจัยอื่น ๆ ของผู้ป่วย

แนวคิดของแนวทางปฏิบัตินี้ก็คือ ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงสุดจะได้รับประโยชน์สูงที่สุดจากยาลดคอเลสเตอรอล “สเตติน”

นักวิจัยได้ศึกษาข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ข้อมูลดังกล่าวนี้มีผลการวัดระดับคอเลสเตอรอลจากผู้ใหญ่มากกว่า 32,000 คน ในช่วงระหว่างปีพ.ศ. 2548 ถึงพ.ศ. 2559

ในกลุ่มคนที่ทานยาสเตติน ระดับคอเลสเตอรอลตัวร้ายโดยเฉลี่ยลดลง 21 จุดตลอดระยะเวลาที่ทำการศึกษา นอกจากนี้ระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมและไขมันชนิดอื่น ๆ ในเลือดก็ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน

นายแพทย์ Michael Miller เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจที่ศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการศึกษานี้ กล่าวว่า ผลลัพธ์ดังกล่าวนั้นดีมากจนน่าประหลาดใจ โดยรวมกันแล้วคาดว่าความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและอาการเส้นเลือดอุดตันในสมองจะลดลง 15% ถึง 20%

นอกจากนี้อัตราการใช้ยา “สเตติน” ของผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานยังมีเพิ่มมากขึ้น

นายแพทย์ Neil J. Stone จากมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น ซึ่งเป็นหัวหน้าในการพัฒนาแนวทางปฏิบัติปี พ.ศ. 2556 จากสมาคม American College of Cardiology และ American Heart Association กล่าวว่า การป้องกันไม่ให้ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานมีอาการหัวใจวายเป็นครั้งแรกนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

นายแพทย์ Pankaj Arora จากมหาวิทยาลัยรัฐแอละบามา วิทยาเขตเบอร์มิงแฮม หัวหน้าการศึกษาวิจัยนี้ กล่าวว่า ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องดังกล่าว

ด้านนายแพทย์ Arora จากมหาวิทยาลัยแอละบามา เตือนว่า ยังไม่พบว่ามีการรักษาเพิ่มขึ้นในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงกลุ่มอื่น ๆ และว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่ทราบว่าตัวเองมีปัญหาในเรื่องระดับคอเลสเตอรอล ซึ่งคำแนะนำสำหรับผู้ป่วยเหล่านี้ก็คือ ควรไปตรวจวัดระดับคอเลสเตอรอลหากยังไม่ได้ตรวจวัดในระยะนี้

รายงานการศึกษานี้ ตีพิมพ์อยู่ในวารสาร the American College of Cardiology

QR Code for https://www.stkc.go.th/stiarticle/%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A5
Hits 256 ครั้ง