มีอะไรอยู่ใน "ยาสีฟัน"

มนุษย์เรารู้จักการทำความสะอาดช่องปากมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณหรือเมื่อประมาณ 5,000 - 3,000 ปีก่อนคริสตกาลแล้ว โดยในยุคสมัยนั้นชาวอียิปต์ทำผงขัดฟันขึ้นมาจากขี้เถ้าจากกีบเท้าของวัว ผงเมอร์ (myrrh ซึ่งเป็นยางไม้ชนิดหนึ่ง) ผงเปลือกไข่เผาไฟและผงหินพัมมิช (pumice) ขณะเดียวกันนั้นก็ไม่ได้มีเพียงแค่ชาวอียิปต์เท่านั้นที่สนใจเกี่ยวกับ อนามัยในช่องปาก ยังมีชาวจีน ชาวอินเดียโบราณและชาวเปอร์เซียน ที่รู้จักการทำผงชัดฟันขึ้นใช้ด้วยเหมือนกัน

          ในศตวรรษที่ 18 การพัฒนาและปรับปรุงผงขัดฟันยุคใหม่ได้เริ่มขึ้นในประเทศอังกฤษ จากนั้นก็มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงปี 2491 บริษัทไลอ้อนประเทศญี่ปุ่นก็ได้ผลิตยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ได้ สำเร็จเป็นรายแรกของโลก

โดยทั่วไป ยาสีฟันประกอบไปด้วยสารต่างๆ ดังต่อไปนี้ 

1. สารรักษาความชื้น (humectant) มีอยู่ประมาณ 15-70 เปอร์เซ็นต์ โดยสารนี้มีคุณสมบัติในการช่วยรักษาปริมาณน้ำในเนื้อยาสีฟันทำให้เนื้อยาสี ฟันไม่แข็งเมื่อต้องอยู่ภายในหลอดที่เก็บไว้เป็นเวลานาน สารที่นิยมนำมาใช้ คือ สารกลีเซอริน สารซอร์บิทอล สารไซลิทอล

2. น้ำ มีประมาณ 0-50 เปอร์เซ็นต์ เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้เนื้อยาสีฟันไม่แห้งแข็ง ยกเว้น ผงขัดฟัน (tooth powders)

3. ผงขัดฟัน (abrasive) มีประมาณ 10-50 เปอร์เซ็นต์ โดยผงขัดฟันนี้มีหน้าที่ในการขจัดเศษอาหารที่ตกค้าง รวมถึงคราบจุลินทรีย์ที่ติดอยู่บนฟัน สารที่นิยมนำมาทำใช้ ได้แก่ อะลูมินา แคลเซียมฟอสเฟต แคลเซียมคาร์บอนเนต เกลือ หินพัมมิช โซเดียมไพโรฟอสเฟต โซเดียมคาร์บอเนต เป็นต้น

4. สารลดแรงตึงผิวและสารแต่งกลิ่นรส (detergent and flavoragent) สารสองชนิดนี้มีรวมกันแล้วประมาณ 2 เปอร์เซ็น โดยมีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบสกปรกต่างๆ เช่น ไขมัน และทำให้เกิดเป็นฟองขณะแปรงฟัน เหตุผลต้องใช้สารสองชนิดร่วมกันก็เพื่อให้สารแต่งกลิ่นช่วยกลบกลิ่นและรสของ สารลดแรงตึงผิวนั่นเอง ส่วนสารที่นิยมนำมาใช้ ได้แก่ โซเดียมสเตียริลฟูมาเรต โซเดียมลอริลซัลเฟต โซเดียมสเตียริลแลกเทต

5. สารให้ความหวาน (sweeteners) มีประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ มีคุณสมบัติเพื่อช่วยทำให้ยาสีฟันมีรสชาติดีขึ้น สารที่นิยมนำมาใช้ ได้แก่ สารแอสพาร์เทม

6. สารทำให้ข้น (thickeners) มีอยู่ประมาณ 0.4-2 เปอร์เซ็นต์ มีคุณสมบัติเพื่อช่วยให้เนื้อยาสีฟันเกาะติดกันได้ดี ไม่เหลวเละ สารที่นิยม นำมาใช้ คือ คาร์ราจีแนน ยางเซลลูโลส โซเดียมคาร์บอกซีเมทเซลลูโลส

7. ฟลูออไรด์ (fluoride) มีประมาณ 0.15-0.24 เปอร์เซ็นต์ คุณสมบัติของสารชนิดนี้คือ เป็นสารที่ออกฤทธิ์ป้องกันฟันผุ ทำหน้าที่เคลือบชั้นเปลือกฟันเพื่อทำให้ฟันทนต่อกรมที่เกิดจากแบคทีเรียใน ช่องปาก สารที่นิยมนำมาใช้นั้น ได้แก่ สแทนนัสฟลูออไรด์ โซเดียมฟลูออไรด์ โซเดียมโมโนฟลูออไรด์

วันที่: 
Wed 30 May 2018
แหล่งที่มา: 
http://www.vcharkarn.comweww.vcharkarn.com/varticle/43855
Hits 4,191 ครั้ง