คุยโทรศัพท์มือถือ เปิดเพลงขณะขับรถ เสี่ยงอุบัติเหตุสูงขึ้น

วันที่เผยแพร่: 
Tue 15 May 2018

คุยโทรศัพท์มือถือ กินขนม ฟังเพลง หรือนำเด็กทารกขึ้นรถ มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น เพราะหากทำแบบนั้นจัดเป็นกิจกรรมที่ขาดสมาธิในการขับรถ เสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงขึ้น แม้ว่าผู้ขับรถจะไม่ได้ดื่มสุรา หรือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ตาม การเสียสมาธิจากเรื่องเหล่านี้ก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้

คุยโทรศัพท์มือถือ

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า คุยโทรศัพท์มือถือ ทำให้สมาธิของผู้ขับขี่จะอยู่กับบทสนทนาทางโทรศัพท์ จึงส่งผลต่อความสนใจสภาพแวดล้อม ไม่สามารถจำรายละเอียดเส้นทาง ป้ายจราจร และป้ายบอกทางได้ โดยเฉพาะหากใช้มือถือโทรศัพท์ จะเหลือมือจับพวงมาลัยเพียงข้างเดียว เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน จึงไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ทันท่วงที

ซึ่ง การคุยโทรศัพท์มือถือ โดยไม่ใช้อุปกรณ์เสริม ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 5 เท่า โดยหากผู้ขับใช้โทรศัพท์มือถือ ผู้ขับรถก็ต้องก้มหน้าดูโทรศัพท์ ใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอ พิมพ์ข้อความสนทนาโต้ตอบทางโทรศัพท์ ทำให้ต้องละสายตาจากเส้นทาง แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับรถ ซึ่งการพิมพ์หรืออ่านข้อความทางโทรศัพท์ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 23 เท่า โดยเฉพาะช่วงระหว่างขับรถ

คุยโทรศัพท์มือถือ

การทานอาหารบนรถ แม้จะเป็นขนมขบเคี้ยวก็ทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิได้ เนื่องจากผู้ขับขี่จะเหลือมือจับพวงมาลัยเพียงข้างเดียว ประกอบกับความมันของอาหารและมือที่เปื้อนเศษอาหาร ทำให้จับพวงมาลัยไม่ถนัด จึงส่งผลต่อการบังคับทิศทางและประสิทธิภาพในการขับรถ

การแต่งหน้า ที่ผู้หญิง หรือสุภาพสตรีมักแต่งหน้าหรือหวีผมในช่วงที่สภาพการจราจรติดขัด หรือรถจอดติดสัญญาณไฟ หากเผลอปล่อยเท้าจากแป้นเบรก จะพุ่งชนรถคันหน้า ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

การค้นหาของหรือหยิบของ ผู้ขับต้องเอื้อมมือ และเอี้ยวตัว รวมถึงละสายตาจากเส้นทาง โดยเฉพาะช่วงที่การจราจรติดขัดหรือจอดติดไฟแดง หากเผลอปล่อยเท้าจากเบรก อาจพุ่งชนรถคันหน้าได้ โดยการค้นหาหรือหยิบของในขณะขับรถ มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 0.5 เท่า ดูโทรทัศน์ แสงสว่าง เสียง และภาพที่เคลื่อนไหว จะดึงดูดผู้ขับขี่ให้ละสายตาจากเส้นทาง การเปลี่ยนช่อง ปรับเพิ่มหรือลดเสียง จะรบกวนสมาธิในการขับรถของผู้ขับขี่

แม้ว่าการฟังเพลง จะทำให้ผู้ขับขี่มีความสุขขึ้น ผู้โดยสารก็ได้ฟังเพลงด้วย แต่การเปิดเพลงจังหวะเร็ว ๆ อาจรบกวนสมาธิในการขับรถ ยิ่งเปิดเพลงเสียงดังยังทำให้ผู้ขับขี่ไม่ได้ยินเสียงจากภายนอก หากเกิดสิ่งผิดปกติกับรถ หรือรถคันอื่นบีบแตรเตือน จะไม่สามารถแก้ไขเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าได้

คุยโทรศัพท์มือถือ

การพาเด็กโดยสารรถตามลำพัง โดยเฉพาะเด็กเล็กอาจปีนป่ายหรือรื้อของในรถ ทำให้ผู้ขับขี่ต้องละสายตาจากเส้นทาง พะวงกับการดูแลและสังเกตพฤติกรรมเด็ก จึงส่งผลต่อสมาธิในการขับรถ ซึ่งการนำเด็กเล็กโดยสารรถตามลำพัง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 4 เท่า การอุ้มเด็กนั่งตักขณะขับรถ ทำให้ผู้ขับขี่บังคับพวงมาลัยไม่ถนัด อีกทั้งเด็กอาจนั่งบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง โดยเฉพาะหากเด็กแย่งพวงมาลัย หรือเลื่อนเกียร์ จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับรถ และ การนำเด็กทารกโดยสารรถ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 8 เท่า.

ดังนั้นหากคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้ ต้องเพิ่มความระมัดระวังและสมาธิจดจ่อมองเส้นทางบนท้องถนน เพื่อให้เกิดอุบัติเหตุจากการเสียสมาธิของผู้ขับ

QR Code for https://www.stkc.go.th/stiarticle/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%96-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99
เจ้าของข้อมูล: 
https://www.it24hrs.com/2018/smartphone-driving-traffic-accident/
Hits 327 ครั้ง