รู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือSLE

วันที่เผยแพร่: 
Thu 15 December 2022

       โรคพุ่มพวง หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง SLE (Systemic Lupus Erythematosus, SLE) เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำลายเนื้อเยื่อร่างกายของตนเอง แต่สาเหตุที่ภูมิคุ้มกันทำงานผิดพลาดนั้นยังไม่แน่ชัด แต่ยังพอสามารถระบุพฤติกรรมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคพุ่มพวงอยู่หลายสาเหตุ โรคนี้ยังต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานและเคร่งครัดเนื่องจากอาการที่กำเริบอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

ความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคพุ่มพวง

- เกิดจากการใช้ยา และสารเคมีต่าง ๆ หรือยาประเภทควบคุมความดันเลือด ยาปฏิชีวนะ เป็นต้น 
- เกิดจากฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในบางครั้งจะส่งผลด้วย เช่น ช่วงตั้งครรภ์หรือช่วงที่เติบโตในแต่ละวัย เป็นต้น
- การถ่ายทอดพันธุกรรม โรคหรืออาการบางชนิดที่เกิดในวงเครือญาติอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคพุ่มพวงได้
- ปฏิกิริยาต่อแสงแดด สำหรับคนที่มีผิวหนังไวต่อแสงแดดจะทำให้เกิดผลข้างเคียงจากอาการแพ้ดังกล่าวได้

ทำไมจึงเรียกว่าโรคพุ่มพวง

        โรคแพ้ภูมิตัวเองเป็นชื่อในเชิงทางการ แต่โดยทั่วไปแล้วเรามักจะเรียกว่า “โรคพุ่มพวง” ซึ่งเรียกตามกันมาจากชื่อของนักร้องไทยชื่อดังในอดีต “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ที่ป่วยเป็นโรคนี้ และเสียชีวิตลงในเวลานั้น ทำให้หลายคนจำชื่อโรคของพุ่มพวงมาจนถึงปัจจุบัน

อาการของโรคพุ่มพวง

อาการของโรคนี้มีอยู่หลายระดับ ถึงแม้จะรักษาได้แต่ในผู้ป่วยบางรายถึงแม้จะรักษาไปแล้วอาการจะยังคงอยู่แบบถาวร โดยอาการดังกล่าวมีอยู่หลายแบบดังนี้

- มีการตรวจพบแอนติบอดีต่อดีเอ็นเอ (anti-dsDNA) หรือการตรวจพบแอนติฟอสโฟไลปิดแอนติบอดี หรือการตรวจเลือดพบผลบวกปลอมต่อการตรวจซิฟิลิส
- หากมีการตรวจเลือดจะพบแอนตินิวเคลียร์แอนติบอดี (antinuclear antibody)
- ผื่นผิวหนังบริเวณใบหน้า ใบหู แขนขา และลำตัว
- มีผื่นบริเวณใบหน้าเป็นรูปผีเสื้อ
- อาการซีด จากเม็ดเลือดขาว หรือเกล็ดเลือดต่ำ
- หากโดนแดดจะมีผื่นผิวหนังแดงอย่างรุนแรง
- เกิดอาการอักเสบที่เยื่อหุ้มปอดหรือหัวใจหรือเยื่อหุ้มสมอง
- ไตอักเสบ
- มีแผลในปาก
- มีอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น อาการชัก เป็นต้น
- ข้ออักเสบ
หากพบว่าตนเองมีอาการดังกล่าวตั้งแต่ 4 ข้อขึ้นไปอาจเป็นสัญญาณว่ามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคพุ่มพวงได้ ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่แน่นอน

ภาวะแทรกซ้อนจากโรคพุ่มพวง

- หัวใจและสมอง เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โรคหลอดเลือดสมอง หรือความจำเสื่อม เป็นต้น
- ปัญหาทางโลหิต เช่น ภาวะโลหิตจาง การติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นต้น

       นอกจากนี้ยังสามารถเกิดปัญหากับอวัยวะอื่น ๆ ได้ เช่น การอักเสบที่ไต ภาวะไตวาย ไปจนถึงเยื่อหุ้มปอดอักเสบ ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้เป็นได้ตั้งแต่อาการที่รุนแรงน้อยไปจนถึงรุนแรงมากแล้วแต่บุคคล และปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย

โรคพุ่มพวงรักษาได้ไหม

โรคนี้สามารถรักษาได้แต่ต้องใช้เวลานานพอสมควร อีกทั้งยังต้องติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง และทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ร่วมกับการดูแลตนเอง ดังนี้

- อยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
- หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด 
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ในการติดตามอาการ และการเฝ้าระวังอาการที่กำเริบถือว่าสำคัญอย่างมากเนื่องจากบางอาการหากอาจส่งผลถึงขั้นเสียชีวิตได้

โรคพุ่มพวงป้องกันอย่างไร
 
      โรคนี้เป็นโรคร้ายที่ไม่ทราบสาเหตุของการเกิดภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างชัดเจน ทำให้การป้องกันไม่สามารถทำได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเรายังสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคได้อยู่ ถือเป็นการป้องกันที่เราพอจะทำได้เพื่อให้ห่างไกลโรคนี้

      ด้วยการป้องกันและรักษาอย่างยากลำบากการดูแลตนเองของผู้ป่วยจึงเป็นสิ่งสำคัญ การมีวินัยตลอดการรักษาจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การรักษาประสบความสำเร็จได้

เผยแพร่ : ณภัทร โพธิ์อยู่ (เจ้าหน้าที่บริหารจัดการเว็บไซต์และประสานงานโครงการ)
สํานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กองระบบและบริหารข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กรข.)
กลุ่มพัฒนาระบบสารสนเทศ (พร.)

Social Media
Facebook : stkcsociety
Youtube channel : STKC Society 
Tiktok : stkcsociety
Twitter : stkcsociety

แหล่งที่มา
https://www.bangkokbiznews.com/social/977407
https://www.bumrungrad.com/th/conditions/systemic-lupus-erythematosus-sle

QR Code for https://www.stkc.go.th/stiarticle/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%ADsle
Hits 407 ครั้ง