วิ่งอย่างไรไม่ให้เหนื่อยมาก

1.จัดสภาพร่างกายให้เหมาะสมก่อนวิ่ง: สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่บางคนอาจมองข้ามไป แต่ที่จริงมันจะช่วยให้คุณพร้อมสำหรับการวิ่งได้มากเลยทีเดียว
2.ใช้ท่าวิ่งที่ถูก: จำไว้ว่าการวิ่งแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน คุณไม่สามารถเอาวิธีวิ่งแบบหนึ่งมาใช้กับอีกแบบได้ ต่อไปนี้คือสิ่งสำคัญในการจัดท่าวิ่งของคุณ
3.หายใจให้ถูก: การหายใจที่ถูกคือการหายใจเป็นจังหวะทางปาก เช่น “เข้า เข้า ออก ออก” (2:2 Rhythm) หรือ “เข้า เข้า เข้า ออก ออก ออก” (3:3 Rhythm) โดยเป็นการหายใจด้วยส่วนท้องไม่ใช่อก ในขณะที่การหายใจที่ผิดคือการหายใจ “เข้า ออก” รัวๆ (1:1 Rhythm) ซึ่งจะทำให้คุณไม่สามารถนำอากาศเข้าไปได้อย่างเต็มที่ระหว่างวิ่ง ทั้งนี้หากคุณหายใจถูกวิธี คุณจะสามารถพูดไประหว่างวิ่งได้
4.ใช้รองเท้าที่ถูกต้อง: หลายคนเข้าใจผิดแล้วหยิบรองเท้ากีฬาอะไรก็ได้มาวิ่ง แต่ที่จริงแล้วรองเท้าแต่ละชนิดออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ที่ต่างกัน ดังนั้นคุณควรลงทุนซื้อรองเท้าให้เหมาะกับการวิ่งระยะไกล แล้วคุณจะเห็นผลลัพท์ที่ดีขึ้นอย่างมาก
5.เริ่มจากการวิ่งช้าๆ: คุณควรฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อดังนี้ (Resistant Training) เพื่อเพิ่มพลังในการวิ่งด้วยการยกเวทต่างๆในทุกส่วนตั้งแต่ร่างกายส่วนบนจนถึงขา จำไว้ว่าการจะวิ่งเร็วนั้นคุณต้องมีกล้ามเนื้อส่วนบนที่แข็งแรงด้วย ไม่ใช่กล้ามเนื้อขาอย่างเดียว
6.สลับเดิน วิ่ง: โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นมือใหม่ การสลับเดินวิ่งจะช่วยให้คุณสามารถค่อยๆปรับตัวและวิ่งได้นานขึ้น คุณไม่ควรหักโหมวิ่งรวดเดียวโดยไม่พักเลย เพราะท้ายสุดแล้วคุณจะเหนื่อยเกินและจะเผาผลาญพลังงานน้อยกว่าการสลับเดินวิ่งที่กินระยะนานกว่าอีก
7.พกน้ำ: เพราะน้ำจะช่วยให้คุณสดชื่นและพร้อมกับมาวิ่งได้อีก อีกทั้งยังทำให้การเผาผลาญพลังงานคุณดีขึ้น อย่างไรก็ดีคุณไม่ควรดื่มน้ำเยอะเกินไปเพราะจะทำให้จุก ควรจิบทีละนิดเพื่อให้ดับกระหายก็พอ
8.พักและกินระหว่างฝึก: คุณจะหยุดพักกินบ้างทุกๆ 30-60 นาทีขึ้นอยู่กับความแข็งแรง โดยคุณอาจกินผลไม้ที่ไม่หนักท้องมากเพื่อเพิ่มกำลังให้คุณวิ่งต่อได้ และคุณไม่ควรหักโหมวิ่งหนักๆไปรอบเดียว เพราะนั่นจะทำให้คุณไม่เหลือพลังในการฝึกที่เหลือเลย และจะทำให้ประสิทธิภาพในการฝึกน้อยลง
9.ฝึกวิ่งเร็ว: คุณไม่ควรจะฝึกวิ่งช้าๆแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะการฝึกวิ่งเร็วจะเพิ่มความทนทานและความแข็งแรงของหัวใจคุณได้ดีขึ้น อีกทั้งยังยกระดับความสามารถของกล้ามเนื้อคุณ และส่งผลให้คุณวิ่งได้นานด้วยในที่สุด
10.เพิ่มความยากขึ้นทีละนิด: คุณควรค่อยๆเพิ่มระยะหรือความเร็วให้มากขึ้นทีละนิด แต่อย่าหักโหม และพยายามมีระเบียบวินับกับการฝึกให้มากที่สุด ดังนั้นคุณควรจะบันทึกการฝึกของคุณไว้อย่างต่อเนื่อง เพื่อวิเคราะห์พัฒนาการของการฝึกของคุณ
11.ฝึกอย่างสม่ำเสมอ: จำไว้ว่ามันไม่ได้สำคัญว่าคุณเป็นนักกีฬามืออาชีพหรือไม่ที่จะวิ่งได้นาน แม้ว่าคนที่เคยเป็นนักกีฬามาก่อน แต่ถ้าขาดจากการฝึกมานาน ก็จะวิ่งได้แป๊ปเดียวแล้วเหนื่อยเร็ว
12.สร้างสภาพแวดล้อมในการฝึก: ไม่ว่าจะเป็นการชวนเพื่อนไปวิ่งหรือออกกำลังกายอื่นๆด้วยกัน เพราะมันจะดีกว่าคุณฝึกอยู่คนเดียว นอกจากนี้หากคุณมีเพื่อนเก่งๆเข้าร่วมการฝึกด้วย มันจะก่อให้เกิดสัญชาติญาณการแข่งขันซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ และมันจะทำให้คุณเก่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องสงสัยเลย

วันที่: 
Thu 23 November 2017
แหล่งที่มา: 
http://www.ohlor.com/วิธีวิ่งไม่ให้เหนื่อยมาก/
Hits 1,479 ครั้ง