จริงหรือไม่ที่บอกว่าผงชูรสห้ามเลือดได้

คุณเคยได้ยินเรื่องเล่าสมัยที่มีสงครามมาบ้างหรือไม่ว่า  ในช่วงเวลานั้นหากทหารเกิดการบาดเจ็บรุนแรงถึงขั้นเป็นบาดแผลฉกรรจ์จากการสู้รบ บาดแผลที่ทำให้เสียเลือดนั้น "ผงชูรส ใช้ห้ามเลือดได้" ที่ผ่านมายังไม่มีผลสรุปทางการแพทย์ออกมายืนยันชัดเจนว่า ผงชูรสสามารถใช้ห้ามเลือดได้ จะมีก็เพียงแต่งานวิจัยและทดลองพอที่จะให้คำตอบได้อยู่บ้าง 

          ในผลงานวิจัยตอนหนึ่งของสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เพื่อศึกษาการใช้สมุนไพรในการบำบัดภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพของประชาชนในภาคกลาง โดยให้หมอชาวบ้านใช้สมุนไพรในการห้ามเลือดจากบาดแผล ซึ่งใช้สมุนไพรมากกว่าถึง 47 ชนิด ซึ่ง 1 นั้นก็มีผงชูรสเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่สามารถห้ามเลือดได้ด้วยเช่นเดียวกัน  แต่การใช้ผงชูรสนี้ผู้ทรงคุณวุฒิในงานวิจัยให้ความเห็นว่าใช้ได้ผลดีเพียงในการบำบัดภาวะเลือดกำเดาออกเสียมากกว่า  โดยวิธีใช้สำลีชุบน้ำหมาด ๆ ชุบผงชูรสและนำมาอุดจมูกไว้สักพัก ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ในขณะเดียวกันก็มีผลงานวิจัยเกี่ยวกับการพิสูจน์ว่าผงชูรสสามารถห้ามเลือดได้จริงหรือไม่ โดยผู้วิจัยได้นำผงชูรสอิ่มตัวลงในพลาสมา (plasma) หรือน้ำเลือด ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเลือดที่เป็นของเหลว ในสัดส่วน 1 : 1 ผลการทดลองพบว่าพลาสมาเกิดการตกตะกอน และจากการตรวจสอบตะกอนนั้นสามารถพิสูจน์ได้ว่าตะกอนดังกล่าวเป็นไฟบริโนเจน (fibrinogen) หรือเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งซึ่งมีหน้าที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด ซึ่งทำให้อาจสรุปได้ว่าผงชูรสทำให้ไฟบริโนเจนตกตะกอนกลายเป็นไฟบริน (fibrin) ที่มีลักษณะเป็นเส้นใยเหนียว ประสานกันเป็นร่างแหอุดรอยฉีกขาดของเส้นเลือดบริวณปากแผลได้ เป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดออกโดยใช้เวลาที่สั้นลงนั่นเอง 

          นอกจากนี้ยังพบงานวิจัยที่ทดลองเกี่ยวกับกลไกการแข็งตัวของเลือด เพื่อศึกษากลไกการรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกายของสัตว์เลือดอุ่น ซึ่งวิเคราะห์จากองค์ประกอบที่ทําให้เกิดกระบวนการแข็งตัวของเลือด ได้แก่ เกล็ดเลือด, เส้นใยไฟบริน ต่าง ๆ เป็นต้น โดยใช้หนูแรทซึ่งเป็นเป็นสัตว์เลือดอุ่นมาทดลองเพื่อศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยแบ่งเป็นหนูแรท 3 กลุ่มดังนี้คือ

  1. หนูแรทกลุ่มทดลองที่ได้รับโซเดียมคลอไรด์ (Sodium chloride) หรือ NaCl
  2. หนูแรทกลุ่มทดลองที่ได้รับผงชูรส (Monosodium glutamate) หรือ C5H8NO4Na
  3. หนูแรทกลุ่มมควบคุมที่ไม่ได้รับสารใด ๆ

          โดยการวิจัยและทดลองเพื่อศึกษาหาข้อมูลและมีผลการทดลอง ดังต่อไปนี้

  1. การทดสอบระยะเวลาที่เลือดหยุดไหลเมื่อเกิดเส้นใยไฟบรินของเลือดซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้เลือดหยุดไหลนั่นเอง จากการทดลองพบว่าหนูแรทกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับสารใด ๆ มีการแข็งตัวของเลือดที่ช้ากว่ากลุ่มที่ได้รับสารโซเดียมคลอไรด์ และผงชูรส ทั้งนี้ก็เพราะว่าในกระบวนการแข็งตัวของเลือดเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่มีสารใด ๆ ไปเร่งการทำงานที่เกี่ยวกับกระบวนการแข็งตัวของเลือด
  1. ลักษณะการสานกันของเส้นใยไฟบรินของเลือด จากการทดลองพบว่า หนูแรทกลุ่มที่ได้รับสารละละลายผงชูรสในการห้ามเลือด มีลักษณะการสานกันของเส้นใยไฟบรินที่หนาแน่น ทำให้อุดบริเวณปากแผลและหลอดเลือดได้ดีกว่าหนูแรทกลุ่มที่ไม่ได้รับสารห้ามเลือด

          ทั้งนี้ ก็สามารถสรุปผลการทดลองได้โดยรวมว่า หนูแรทที่ได้รับสารห้ามเลือดทั้ง 2 ชนิดดังกล่าว สามารถห้ามเลือดได้ เนื่องมาจากสารทั้งสองชนิดมี Naเป็นองค์ประกอบ ซึ่ง Naดังกล่าว มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดนั่นเอง

วันที่: 
Thu 17 July 2025
แหล่งที่มา: 
https://www.scimath.org/article-chemistry/item/8505-2018-07-18-04-51-29
Hits 111 ครั้ง