ทำไมตากฝนแล้วถึงเป็นหวัด

“อย่าเดินตากฝนนะเดี๋ยวไม่สบาย” “ตากฝนมาต้องรีบอาบน้ำสระผมนะ จะได้ไม่เป็นหวัด”

เป็นประโยคที่แทบทุกคนคงจะเคยได้ยินกันมาตั้งแต่เด็ก ทำไมเปียกฝนแล้วจึงต้องเป็นหวัด ทำไมเราจึงไม่สบายหลังจากที่ตากฝน อย่างที่ทราบกันแล้วว่า โรคไข้หวัดเกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งมีหลายสายพันธุ์ แต่ที่พบได้บ่อยที่สุด คือ ไรโนไวรัส (Rhinovirus) และโคโรนาไวรัส (Coronavirus) ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณระบบทางเดินหายใจส่วนต้น ทำให้มีไข้ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม เจ็บคอ โดยปกติแล้วรอบตัวของเรารวมถึงในอากาศจะเต็มไปด้วยเชื้อไวรัส แต่ที่เราไม่เป็นหวัดเพราะร่างกายของเรามีภูมิต้านทานที่ช่วยต่อต้านเชื้อไวรัสเหล่านั้นเอาไว้ ในยามที่ฝนตก ลมพายุจะพัดพาเอาเชื้อไวรัสต่าง ๆ ที่แพร่กระจายอยู่ในอากาศมาอยู่บนร่างกายของเรา ทำให้ร่างกายของเราต้องสัมผัสกับไวรัสจำนวนมากขึ้น จึงเพิ่มความเสี่ยงที่ร่างกายจะได้รับเชื้อไวรัส นอกจากนี้ เมื่อเราเปียกฝน ความเย็นจากน้ำฝนยังทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดต่ำลง เป็นสาเหตุทำให้ไวรัสเจริญเติบโตได้ดี ร่างกายจึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น และหากระบบภูมิคุ้มกันของเราต้านทานไม่ได้ ก็จะทำให้เกิดอาการไข้หวัดได้นั่นเอง ดังนั้น ในฤดูฝนนี้ ควรดูแลตนเองโดยการหลีกเลี่ยงการตากฝน แต่หากเลี่ยงไม่ได้ เมื่อกลับถึงบ้าน รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ สระผม เช็ดตัวให้แห้ง และทำร่างกายให้อบอุ่น รวมถึงควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราให้แข็งแรงและปกป้องเราจากโรคไข้หวัดได้

วันที่: 
Tue 24 September 2024
แหล่งที่มา: 
https://www.nsm.or.th/nsm/th/node/4216
Hits 250 ครั้ง