รู้จักภัยแฝงจาก การบูร

ยาดม ยาหม่อง และพิมเสนน้ำ เป็นของใช้ใกล้ตัวที่ทุกคนคุ้นเคย แต่ปัจจุบันถูกใช้ในรูปแบบแฟชั่นมากกว่าการบรรเทาอาการวิงเวียน อย่างไรก็ตาม การใช้ผิดวิธีอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ บทความนี้จะพูดถึงข้อควรระวังและความจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้

 

ยาดม ยาหม่อง พิมเสนน้ำ หรือยาบรรเทาอาการวิงเวียนใกล้ตัวในรูปแบบต่าง ๆ ที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป และมักเห็นกลุ่มคนทั่วไปมักใช้เป็นประจำ เราอาจคิดว่ามันน่าจะเห็นสิ่งของคู่กายสำหรับกลุ่มคนสูงวัย แต่เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งนี้ยังพบสิ่งของพกพาติดตัวกันสำหรับกลุ่มเด็กหรือเยาวชนจนถึงวัยทำงานอีกด้วย มองดูแล้วกลับกลายเป็นของฮิตตามแฟชั่นมากกว่ายาที่ไว้สำหรับพกติดตัวเมื่อเกิดอาการเพียงเท่านั้น ⊂ ∉

          ด้วยเหตุที่มีการออกแบบให้ดูทันสมัย ขนาดพกพาได้ ว่ากันแล้วยาดมในปัจจุบันอาจถูกใช้งานผิดลักษณะคือ ใช้ดมเพื่อผ่อนคลายจนเสียบุคลิกภาพมากกว่าบรรเทาอาการมึนงงวิงเวียนศรีษะหรือตามที่สรรพคุณบนฉลากแจ้งเอาไว้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่ากังวลอยู่เหมือนกันเพราะรู้หรือไม่ว่า ในยาดมและยาหม่องเหล่านั้นอาจมีอันตรายต่อร่างกายได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว หากสูดดมเข้าสู่ร่างกายหรือสัมผัสกับผิวหนังโดยตรงมากจนเกินไป

8401 01

คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าส่วนประกอบที่สำคัญที่มีอยู่ในยาหม่องและยาดมอย่างการบูรที่หลาย ๆ คนรู้จัก และอาจเข้าใจว่าเป็นสมุนไพรให้คุณมากกว่าโทษ แต่บอกให้รู้ไว้ได้เลยว่าอย่าวางใจไปเชียว เพราะการบูรที่เรารู้จักนั้นอาจทำให้ยาดมยาหม่องเปลี่ยนจากให้คุณเป็นโทษอย่างมหัน ซึ่งอาจนำไปสู่โรคภัยให้แก่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว เพราะการบูรเป็นสารกระตุ้นในระบบประสาทชนิดหนึ่ง ที่ทำให้เกิดการเสพติดได้ ดังจะเห็นได้จากพฤติกรรมการพกติดตัวของผู้ใช้นั่นเอง

          การบูร มีลักษณะทางกายภาพเป็นผลึกเล็ก ๆ ที่มีลักษณะใส โปร่งแสง หรือมีสีขาว  มีกลิ่นหอมฉุนเฉพาะตัว เป็นสารประกอบอินทรีย์ ประเภทมอโนเทอร์พีนคีโทน มีการสลายตัวได้จากการระเหิดอย่างช้า ๆ เมื่อทิ้งไว้ในอากาศ หรือระเหยได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับไอน้ำ ละลายในน้ำได้ยาก และไม่ละลายในกลีเซอรีน มีผลทำให้เกิดความรู้สึกเย็นสดชื่นเมื่อได้สัมผัสหรือสูดดม และการที่สัมผัสกับกลิ่นที่เข้มข้นบ่อย ๆ ของการบูรนั้น อาจนำมาซึ่งอาการแพ้หรืออักเสบได้ เช่น โพรงจมูกอักเสบ ติดเชื้อในโพรงจมูก ไซนัสอักเสบ เยื่อบุโพรงจมูกเสียหาย และการระคายเคืองที่อาจรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบก็สามารถเป็นไปได้

         นอกจากนี้ การบูรยังมีสรรพคุณมีฤทธิ์เป็นยาชาและยาต้านจุลินทรีย์ สำหรับผู้ที่เกิดอาการแพ้ชนิดรุนแรงซึ่งมีผลต่อการกระตุ้นระบบประสาทโดยเฉพาะระบบประสาทส่วนกลาง  และในขณะเดียวกันก็พบว่าการสูดดมการบูรยังมีผลต่อการทำงานของตับอีกด้วย เพราะการบูรมีฤทธิ์ที่สามารถซึมซับผ่านผิวหนังได้ดี หากลองสังเกตได้จากลักษณะอาการเมื่อมีการใช้การบูรทาบริเวณศรีษะ หน้าอก และตามบริเวณผิวหนังต่าง ๆ เพื่อแก้อาการต่าง ๆ เช่น อาการคัน อาการปวดเมื่อย เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้อาจมีผลรุนแรงได้ถึงอาการชัก หากทาโดยใช้ปริมาณมากเกินไป

         เห็นไหมว่า การใช้ยาดมยาหม่องซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญอย่างการบูรมีความสำคัญอย่างมาก  ไม่ใช่แต่จะให้คุณอย่างเดียวแต่ยังให้โทษร้ายแรงหากใช้โดยไม่ระมัดระวัง ดังนั้น ต้องใช้อย่างถูกวิธี ระมัดระวัง และไม่สูดดมติดต่อกันเป็นเวลานาน ใช้เมื่อมีความจำเป็นเพียงเท่านั้น

วันที่: 
Thu 17 July 2025
แหล่งที่มา: 
https://www.scimath.org/article-chemistry/item/8401-2018-06-01-02-54-00
Hits 61 ครั้ง