เส้นทางการเดินทางของคนหรือวัตถุต้องสงสัย
ปัจจุบัน เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (Space and Geoinformatics Technology) เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการทำงานในหลากหลายมิติ ทั้งการติดตามการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการน้ำและการเกษตรอัจฉริยะ การเปลี่ยนแปลงของเมือง ตลอดจนด้านความมั่นคงทางสังคม และการสืบสวนสอบสวนคดีต่างๆ เป็นต้น เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่เป็นวิทยาศาสตร์ และเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ ในการรวบรวม ประกอบการวิเคราะห์ และแสดงผลข้อมูลทั้งในเชิงพื้นที่ในรูปแบบแผนที่ดิจิทัลและเชิงเวลา ทำให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถเชื่อมโยงข้อมูลหลักฐาน แสดงการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ติดตามพฤติกรรมและเส้นทางการเดินทาง และแสดงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ซึ่งหลายเหตุการณ์ในคดีต่างๆ จะถูกใช้เป็นวัตถุพยานที่สำคัญในการไขคดีและติดตามผู้กระทำผิด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (Space and Geoinformatics Technology) ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ 1) เทคโนโลยีการสำรวจข้อมูลระยะไกล (Remote Sensing Technology) 2) ระบบข้อมูลแสดงพิกัดทางภูมิศาสตร์ (GPS: Global Positioning System) และ 3) ระบบสารสนเทศภูมิสารสนเทศ หรือ GIS (Geographic Information System) สำหรับการนำข้อมูลจากเทคโนโลยีนี้ไปใช้ประโยชน์จะช่วยในการสร้างฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการติดตามตำแหน่งที่สนใจ การสืบสวนเส้นทางการเดินทางและการวิเคราะห์เส้นทางของคนหรือวัตถุต้องสงสัย เป็นต้น นอกจากนั้นการใช้ประกอบกับวัตถุพยานกับคดีต่างๆ เช่น ตำแหน่งเกิดเหตุ พื้นที่ต้องสงสัย หรือเส้นทางหลบหนี ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลด้านประชากร เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อค้นหารูปแบบหรือแนวโน้มที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน เช่น พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม หรือจุดเชื่อมโยงการเคลื่อนไหวของขบวนการผิดกฎหมาย เป็นต้น
นอกจากนี้ การใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียม (Satellite Imagery) และภาพถ่ายทางอากาศ (Aerial Photo) ยังช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพื้นที่ต้องสงสัยในช่วงเวลาก่อนและหลังเกิดเหตุได้ เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ เช่น กรณีเป็นภาพรายละเอียดสูง สามารถตรวจสอบร่องรอยการฝังกลบ การเปิดหน้าดิน การก่อสร้างผิดกฎหมาย หรือการทำลายหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นเบาะแสสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงคดีให้กระจ่างขึ้น
.
อีกเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญคือระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลก (GPS) ซึ่งถูกนำมาใช้ติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัย หรือวิเคราะห์เส้นทางที่ใช้ในการกระทำผิด ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือและยานพาหนะที่ติดตั้ง GPS สามารถแสดงตำแหน่งและเวลาได้อย่างละเอียด ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ต้องสงสัยอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุหรือมีการพบปะกับผู้ร่วมขบวนการเมื่อใด นอกจากนี้ ข้อมูลเหล่านี้ยังช่วยในการวางแผนติดตามจับกุมได้อย่างแม่นยำ
.
ในบางกรณีการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น เทคโนโลยีโดรน (Drone) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่เสริมศักยภาพงานสืบสวน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่เสี่ยงสูง เช่น พื้นที่แนวชายแดน หรือพื้นที่ป่าเขา เจ้าหน้าที่สามารถใช้โดรนบินสำรวจแบบเรียลไทม์เพื่อเก็บข้อมูลสภาพพื้นที่และติดตามการเคลื่อนไหวของบุคคลหรือยานพาหนะต้องสงสัยได้อย่างต่อเนื่อง ข้อมูลภาพถ่ายจากโดรนเมื่อนำมาวิเคราะห์ร่วมกับ GIS และภาพถ่ายจากดาวเทียม จะช่วยให้การตรวจสอบพื้นที่เป็นไปอย่างครบถ้วนและรอบด้านมากขึ้น รวมถึงการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมระบบ Thermal satellite ที่จะให้รายละเอียดของความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้
.
ยกตัวย่างในกรณีการสืบสวนขบวนการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชายแดน เจ้าหน้าที่สามารถใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียมตรวจสอบหาจุดที่มีความเสี่ยงในการลักลอบข้ามชายแดน หรือบริเวณที่เป็นช่วงแม่น้ำแคบ หรือพื้นที่ที่มีการลักลอบตัดไม้เพื่อเป็นฐานผลิตยาเสพติดในป่า จากนั้นใช้ข้อมูลภูมิสารสนเทศเพื่อสร้างแผนที่เส้นทางลำเลียงยาเสพติด วิเคราะห์จุดพักของขบวนการ และใช้โดรนในการเฝ้าระวังจุดพักสำคัญ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถวางแผนสกัดจับและจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
ในคดีนี้ ผู้ต้องสงสัยพยายามอำพรางศพโดยนำไปฝังในพื้นที่รกร้างห่างไกลชุมชน เจ้าหน้าที่ใช้ภาพถ่ายจากโดรนเปรียบเทียบกับภาพถ่ายจากดาวเทียมรายละเอียดสูงย้อนหลัง เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของพื้นดินในช่วงเวลาเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบจุดดินถูกขุดและฝังใหม่ จากนั้นใช้ข้อมูล GPS จากโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องสงสัยเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง พบว่าผู้ต้องสงสัยเดินทางมายังจุดฝังศพในช่วงเวลาดังกล่าว เมื่อรวมข้อมูลเชิงพื้นที่กับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงสามารถเชื่อมโยงผู้ต้องสงสัยกับสถานที่เกิดเหตุและดำเนินคดีได้อย่างชัดเจน
.
ในกรณีของคดีลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่อนุรักษ์ เจ้าหน้าที่สามารถใช้ภาพถ่ายดาวเทียมเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าในช่วงเวลาต่างๆ เพื่อระบุจุดที่มีการบุกรุก จากนั้นใช้ข้อมูล GPS ที่ได้จากโทรศัพท์มือถือหรือยานพาหนะของผู้ต้องสงสัยเพื่อตรวจสอบเส้นทางเข้า-ออกป่า และใช้โดรนบินสำรวจจุดที่สงสัยว่าเป็นที่พักแรมหรือจุดรวมไม้ผิดกฎหมาย ข้อมูลเชิงพื้นที่เหล่านี้ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์และเชื่อมโยงพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยได้อย่างเป็นระบบ
.
เทคโนโลยีอวกาศและระบบภูมิสารสนเทศ (Space and Geoinformatics Technology) จะเป็นอีกเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยกระดับการติดตามตำแหน่งที่สนใจ การสืบสวนเส้นทางการเดินทาง ตรวจสอบเส้นทางการเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัย และการวิเคราะห์เส้นทางของคนหรือวัตถุต้องสงสัย และเชื่อมโยงข้อมูลหลักฐานเชิงพื้นที่กับข้อมูลอื่นๆ ได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานสืบสวนสอบสวนในยุคดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และโปร่งใส ด้วยการผสานข้อมูลเชิงพื้นที่จากหลายแหล่ง ทั้ง GIS ภาพถ่ายดาวเทียมประเภทต่างๆ ข้อมูล GPS และภาพถ่ายจากโดรน ทำให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถเข้าใจภาพรวมของคดีได้อย่างครบถ้วน ทั้งนี้ในปัจจุบันในต่างประเทศได้มีการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้กันอย่างแพร่หลาย และตอบโจทย์การรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคมอย่างยั่งยืน