โรคระบาดในประวัติศาสตร์ คร่าชีวิตผู้คนนับล้าน
การแพทย์สมัยใหม่ในยุคนี้มีความเจริญก้าวหน้ามาก เราจึงรับมือจากการเรียนรู้เหตุการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นในอดีต แต่สำหรับผู้คนยุคโบราณ การแพทย์นั้นยังไม่พัฒนาทัดเทียมกับยุคปัจจุบัน เมื่อเกิดโรคระบาดแต่ละครั้งจึงมีความรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงมาก และนี่คือเหตุการณ์โรคระบาดร้ายแรงที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
โรคระบาดเอเธนส์
ณ ค่ายทหาร เมืองเอเธนส์ มีผู้คนป่วยด้วยโรคประหลาด คือ มีไข้ ตาแดงและอักเสบ ภายในลำคอหรือกลายเป็นเลือดและมีลมหายใจที่มีกลิ่นเหม็น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 แสนคน
โรคระบาดอันโทนีน
โรคระบาดอันโทนีน หรืออีกชื่อหนึ่งว่า the Plague of Galen คือ โรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษที่ระบาดในอาณาจักรโรมันสร้างความเสียหายใหญ่หลวงแก่กรุงโรมเป็นอย่างมากด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากถึง 5 ล้านคน นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่า การระบาดครั้งแรก เกิดจากทหารที่กลับจากการรบกับพาร์เธีย (Parthia) การระบาดในครั้งนี้นำสู่จุดจบของจักรวรรดิโรมัน
กาฬโรคแห่งจัสติเนียน
จักรพรรดิจัสติเนียน (Emperor Justinian) เป็นผู้ปกครองจักรวรรดิไบเซนไทม์ (Byzantine) ในช่วงที่พระองค์ทรงครองจักรวรรดิ เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ ซึ่งถูกตั้งชื่อว่า กาฬโรคจัสติเนียน โรคระบาดครั้งนี้มีต้นกำเนิดมาจากจีน และแพร่กระจายสู่กรุงคอนสแตนติโนเปิลจากธัญพืชที่นำเข้าจากอียิปต์ โดยนครแห่งนี้มีหนูและหมัดเป็นจำนวนมาก จึงทำให้โรคระบาดอย่างรวดเร็ว ช่วงที่กาฬโรคระบาดถึงขีดสุด ชาวคอนสแตนติโนเปิลต้องเสียชีวิตอย่างน้อยวันละ 10,000 คน และมีผู้เสียชีวิตทั่วโลกมากกว่า 100 ล้านคน
ไข้ทรพิษหรือฝีดาษ
ประเทศญี่ปุ่น เกิดการระบาดครั้งใหญ่ของโรคไข้ทรพิษหรือฝีดาษ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 1 ล้านคน นับเป็นอีกหนึ่งในโรคติดต่อร้ายแรง ที่มีลักษณะอาการเฉพาะ คือ ผื่นขึ้นตามตัว ไข้สูง ปวดศรีษะ ชัก และอาจเกิดโรคแทรกซ้อนจนเสียชีวิตในที่สุด
กาฬโรค
กาฬโรค หรือ “มรณะดำ” เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเยอซิเนีย เพสทิส โดยมีสัตว์ฟันแทะอย่างหนูเป็นพาหะ การฝังศพไม่ถูกสุขลักษณะ ในประเทศอิตาลีมีประชากรเสียชีวิต 2 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด