ก.วิทย์ฯ แถลงข่าวความพร้อมการจัดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ” ปีที่ 12 ภายใต้แนวคิด จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิต ด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม
ก.วิทย์ฯ แถลงข่าวความพร้อมการจัดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ” ปีที่ 12 ภายใต้แนวคิด จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิต ด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในการแถลงข่าวความพร้อมการจัดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2560” (National Science and Technology Fair Thailand 2017) ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิต ด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม” โดยมีรศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางกรรณิการ์ วงศ์ทองศิริ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เข้าร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2560 จัดขึ้นเนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะเป็น “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะเป็น “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” อีกทั้ง ในปีนี้ยังมีแนวคิดเพื่อสื่อสารถึงความสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป้าหมายการพัฒนาประเทศเข้าสู่ Thailand 4.0 เป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ Sustainable Development Goals (SDGs) และเพื่อร่วมฉลองวาระสำคัญทางวิทยาศาสตร์ในโอกาสที่องค์การสหประชาชาติ (UNESCO) มีมติให้ปี 2560 เป็น “ปีสากลแห่งการท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” หรือ “2017 International Year of Sustainable Tourism for Development” ซึ่งเป็นหนึ่งในการสนับสนุนเป้าหมายของ SDGs อีกด้วย มหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ จึงถือเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีของประเทศและภูมิภาคเอเชีย ในการแสดงผลงานความก้าวหน้าและศักยภาพทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมด้วยศักยภาพของนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ของไทยและต่างประเทศ รูปแบบของกิจกรรมในงานคล้ายเทศกาลวิทยาศาสตร์ (Science Festival) ในหลายประเทศ คือประกอบด้วย การจัดนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในรูปแบบทันสมัย มีความเป็นสากล เปิดโอกาสให้ผู้เข้ามามีส่วนร่วม (Interactive Exhibition) โดยเน้นหัวข้อที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วย New S-curve มุ่งสู่ Thailand 4.0 รวมทั้งได้มีการนำแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องสะเต็มศึกษา (STEM Education) มาใช้ในการจัดกิจกรรมในรูปแบบ เล่น-เรียน-รู้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม ในประเด็นการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และส่งเสริมการสร้างกิจกรรมภายในครอบครัว ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม” โดยในปีนี้เป็นการผนึกกำลังร่วมกันของ 10 กระทรวง มากกว่า 100 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน และปีนี้ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างประเทศอีก 7 ประเทศ 16 หน่วยงาน เข้าร่วมจัดกิจกรรมแสดงความก้าวหน้าและเทคโนโลยี ได้แก่ ญึ่ปุ่น (9 หน่วยงาน) สหรัฐอเมริกา (2 หน่วยงาน) สหราชอาณาจักร เยอรมัน ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ เพื่อกระตุ้นความสนใจแก่นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนที่จะต้องเติบโตและเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในวันข้างหน้า รวมถึงการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวเสริมถึงความยิ่งใหญ่ในงานครั้งนี้ว่า ภายในงานประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมถึง 5 โซน มากมายองค์ความรู้ให้ทุกคนได้เข้าไปมีส่วนร่วม ตั้งแต่นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ,นิทรรศกลางที่นำเสนอประเด็นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่กำลังอยู่ในความสนใจของประชาชนหรือมีคววามสำคัญ มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการพัฒนาประเทศในอนาคต, กิจกรรมวิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตในแนวทางสะเต็มศึกษา, นิทรรศการแสดงศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทย การประกวดและแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ การประชุม สัมมนา และการแสดงสินค้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมการนำเอาเทคโนโลยีและมัลติมีเดียใหม่ๆ มาใช้ในการจัดแสดง เพื่อสร้างประสบการณ์ เปิดมุมมองการเรียนรู้ผ่านสื่อ Interactive พร้อมด้วยนิทรรศการรูปแบบ 4D Simulator ที่มาช่วยเติมความสุข สนุกสนาน และเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
มหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในปีนี้ ได้มีการนำเสนอเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับปรุงรูปแบบการจัดแสดงนิทรรศการให้มีความทันสมัย มีความเป็นสากล และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มกิจกรรมสำหรับทุกเพศทุกวัยให้ได้ร่วมสนุกและทดลอง สำหรับนิทรรศการที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ (Royal Pavilion) นำเสนอพระวิสัยทัศน์และพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และนำเสนอพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอุลยเดช “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย และ พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” รวมทั้ง นำเสนอพระอัจฉริยภาพของพระบรมวงศานุวงศ์ผู้ทรงมีบทบาทและให้ความสำคัญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นิทรรศการหลัก ที่มีการนำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาประเทศเข้าสู่ Thailand 4.0 รวมทั้งเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ Sustainable Development Goals (SDGs) และปีสากลแห่งการท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน อาทิ นิทรรศการนวัตกรรมพลังงาน (Innovation Energy), นิทรรศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (International Year of Sustainable Tourism), นิทรรศการนวัตกรรมอาหารและการเกษตร(Agriculture and Food Innovation)
นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการที่ให้ความรู้ความเข้าใจและสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นในสังคมและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันทั้งในปัจจุบันและอนาคต อาทิ นิทรรศการยุคมนุษย์ครองโลก (Anthropocene), นิทรรศการสูงวัยใกล้ตัว(Aging Society), นิทรรศการ Miracle of Science : สารพัดพิษ, นิทรรศการยักษ์ใหญ่ใต้ทะเลลึก(Monsters of The Sea) ยิ่งไปกว่านั้นภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ยังมีนิทรรศการและกิจกรรมสำหรับเยาวชนเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการเรียนรู้ในแนวทาง STEM Education ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์และต่อยอดสู่อาชีพที่เกี่ยวข้องกับ วทน. ได้แก่ ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ลานกิจกรรมพัฒนาปัญญาเยาว์ ลานกิจกรรมประกวดแข่งขัน ห้องฉายภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ เป็นต้น
ดร.อรรชกาฯ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่าขอเชิญชวนเยาวชนและประชาชนทุกท่านเข้าชมงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปี 2560 ที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 17-27สิงหาคม 2560เวลา 09.00-19.00 น. ณ ฮอลล์ 2-8อิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมสนุกและเรียนรู้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ทุกคนสามารถเข้าชมได้อย่างเพลิดเพลิน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมและร่วมกิจกรรม