รมว.วิทย์ เน้นมหาวิทยาลัยเป็นพลังปฏิรูปงานวิจัยและนวัตกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0

ข่าวประจำวันที่: 
Mon 5 March 2018

รมว.วิทย์ เน้นมหาวิทยาลัยเป็นพลังปฏิรูปงานวิจัยและนวัตกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0

180304 0011

          ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน / ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมบรรยายพิเศษในประเด็น “การปฏิรูปการวิจัยและารสร้างนวัตกรรมเพื่อไปสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ของประเทศไทย” ภายในงาน University Expo 2018 จัดโดย ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เพื่อสนองนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการเปิดบทบาทมหาวิทยาลัยยุคใหม่สู่การเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรม หรือ Innovation Hubs โดยมุ่งเน้นไปที่ 5 กลุ่มงานที่สำคัญ ได้แก่ 1) Agriculture & Food ศูนย์นวัตกรรมเกษตรและอาหาร 2) Ageing Society ศูนย์นวัตกรรมสังคมผู้สูงอายุ 3) Smart City ศูนย์รวมนวัตกรรมด้านเมืองอัจฉริยะ 4) Bionergy ศูนย์รวมนวัตกรรมด้านพลังงานชีวภาพ และ 5) Creative Economy ศูนย์รวมนวัตกรรมด้านสินค้าหรือการบริการสร้างสรรค์

 

180304 0017  180304 0018

180304 0014  180304 0016

          ดร.สุวิทย์ กล่าวว่า โจทย์ของการวิจัยจะมีความท้าทายขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีแบบเฉียบพลัน ก่อให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมากมาย ทำให้วัฏจักรของเทคโนโลยี (Technology Life Cycle) แต่ละชนิดสั้งลงเรื่อยๆ ส่งผลให้วงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์และธุรกิจสั้นลงเช่นกัน ซึ่งหากมหาวิทยาลัยอยากจะเป็นแนวหน้าด้านการวิจัยและนวัตกรรม (Research & Innovation: R&I) จะต้องมีแพลตฟอร์ม (Platform) ร่วมกันในการทดลองและทดสอบในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี หรือแนวทางนโยบายใหม่ๆ เช่น Future Lab ในรูปแบบของ Policy Lab, Government Lab, Living Lab หรือ Social Lab เป็นต้น โดยเมื่อปี 2560 ได้ร่วมกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่งในการจัดทำ Government Lab ขึ้น ทั้งนี้ UNDP ต้องการจะขยายขอบเขตของ Government Lab จากประเทศไทยไปครอบคลุมพื้นที่ประเทศอาเซียนในเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม โดยสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางหรือ Government Innovation Center ซึ่งกำลังจะจัดตั้งขึ้นในเร็วๆ นี้ จึงอยากจะเชิญชวนให้ ทปอ. และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้ด้วย

        รมว.วิทย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จำเป็นต้องมีการทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิด Platform Innovation ใหม่ๆ โดยจะปรับบทบาทของอุทยานวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั่วโลก เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากประเทศอื่น สู่การมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง และหัวใจหลักของมหาวิทยาลัยคือการสร้าง Talent & Technology พร้อมสอนให้นักศึกษามีความชอบในสิ่งที่เรียน เพื่อคิดค้นหาวิธีการวิจัยจนเกิดผลผลผลิตนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ต่อไป และสิ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 คือต้องปฏิวัติระบบความคิด ปฏิรูปตนเอง เพื่อให้อยู่ได้อย่างคุณภาพเป็นปกติในโลกศตวรรษที่ 21 ที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย

180304 0004  180304 0007

180304 0020  180304 0013

         ด้าน ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยการใช้ความรู้จากผลงานวิจัยและองค์ความรู้ที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัยมาตอบโจทย์ในการพัฒนาประเทศ ที่ประชุม ทปอ. จึงได้มีแนวทางให้แต่ละมหาวิทยาลัยเร่งนำผลงานที่เกิดจากคิดค้นทั้งในแง่ของงานวิจัย การประดิษฐ์เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งระบบสารสนเทศต่างๆ ที่มีความอัจฉริยะ มาร่วมต่อยอดและขยายผลให้เกิดการใช้งานได้จริง โดย ทปอ. มุ่งผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาผ่านกลไกการสร้างศูนย์นวัตกรรม หรือ Innovation Hub ซึ่งจะเป็นศูนย์ที่ทำหน้าที่ทั้งการพัฒนาองค์ความรู้ที่มีอยู่มาต่อยอดขยายผลให้เกิดการใช้งานได้จริงทั้งในรูปแบบการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการนำผลงานวิจัยมาใช้ให้เกิดผลผลิตที่เป็นทั้งสินค้า หรือการบริการ ทั้งนี้ จะเร่งผลักดันให้มหาวิทยาลัยภายใต้เครือข่ายทั้ง 160 แห่ง นำความโดดเด่นจากนวัตกรรม งานวิจัย และองค์ความรู้มาผนวกและพัฒนาให้เกิดชิ้นงานแบบใหม่ๆ ร่วมกัน

180304 0005  180304 0002

180304 0008  180304 0006

URL: 
http://www.most.go.th/main/th/news/sort-by-strategic/strategic1/34-news-gov/7152-university-expo-2018
แหล่งที่มา: 
สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สป.วท.)