เทคโนโลยีปลูกเมลอนในโรงเรือนอัจฉริยะ เพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน
สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ บริษัท นาวิต้าฟู้ดส์ จำกัด พัฒนาเทคโนโลยีการเพาะปลูกเมลอน 4 สายพันธุ์ในโรงเรือนอัจฉริยะ เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดแก่เกษตรกร ยกระดับการทำเกษตรกรรม
นางสาววิราภรณ์ มงคลไชยสิทธิ์ รองผู้อำนวยการ สวทช. ในฐานะผู้อำนวยการ สท. เผยว่า การร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะปลูกเมลอนในโรงเรือนอัจฉริยะครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาปัจจัยที่เหมาะสมต่อการเติบโตของต้นเมลอน 4 สายพันธุ์ ที่ได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์และองค์ความรู้เทคโนโลยีทางการเกษตรในการเพาะปลูกจาก บริษัท นาวิตาฟู้ดส์ จำกัด ตั้งแต่เริ่มเพาะปลูกจนเก็บเกี่ยว (Crop requirement) รวมถึงการปรับโรงเรือนและการตั้งค่าเซนเซอร์ให้สอดรับกับความต้องการของพืช เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดให้แก่เกษตรกรต่อไป ทั้งนี้ได้ทำการทดลองปลูกในโรงเรือนอัจฉริยะ “SMART Greenhouse Knockdown Double Roof GH-1” ที่ สท. พัฒนาขึ้น
“การทำงานของโรงเรือนอัจฉริยะนี้จะควบคุมการเพาะปลูกด้วยเซนเซอร์ 4 ตัว คือ เซนเซอร์วัดความเข้มแสง ควบคุมการทำงานของม่านพรางแสง เซนเซอร์วัดความชื้นดิน ควบคุมการทำงานของระบบน้ำหยด เซนเซอร์วัดความชื้นอากาศ ควบคุมการทำงานของระบบพ่นหมอก และเซนเซอร์วัดอุณหภูมิ ควบคุมการทำงานของพัดลมใต้หลังคา โดยเซนเซอร์ทั้งหมดนี้สามารถแสดงผล แจ้งเตือน และควบคุมการทำงานผ่าน Smart phone และ Web base ด้วยเทคโนโลยี IoT (Internet of Things)”
นายสุวิทย์ ไตรโชค ผู้ก่อตั้ง บริษัท นาวิต้าฟู้ดส์ จำกัด และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเกษตร เสริมว่า เมลอนทั้ง 4 สายพันธุ์ ที่บริษัทให้การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์เพื่อทำการพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะปลูกในโรงเรือนอัจฉริยะครั้งนี้ เป็นสายพันธุ์ที่ผ่านการทดลองและคัดเลือกมาเป็นอย่างดี โดยบริษัทมีใบรับรองคุณภาพในการทำการเกษตรจาก Central Lab และกรมวิชาการเกษตร
“เมลอน 4 สายพันธุ์ ประกอบด้วย พันธุ์เพิร์ลเมลอนเนื้อสีส้ม (Orange Pearl Melon) เพิร์ล
เมลอนเนื้อสีเขียว (Green Pearl Melon) กาเลียเมลอน (Japanese Galia Melon) และเมลอนสีทอง (Golden Dragon Melon) ซึ่งแต่ละสายพันธุ์จะมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่โดดเด่นแตกต่างกัน และทั้ง 4 สายพันธุ์ ผ่านการคัดเลือกมาแล้วว่าเหมาะสมแก่การปลูกในสภาพแวดล้อมประเทศไทย
การทดลองเพาะปลูกเมลอนทั้ง 4 สายพันธุ์ในโรงเรือนอัจฉริยะ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทั้งปริมาณผลผลิตและคุณภาพความหวานเมลอนเป็นไปตามความต้องการของตลาด จุดเด่นของการเพาะปลูกในโรงเรือนอัจฉริยะ คือ ความสะดวกในการดูแล และสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเพาะปลูก รวมถึงลดความเสี่ยงที่ผลผลิตจะได้รับความเสียหายจากแมลงและฝน โดยองค์ความรู้ที่ได้จากการทดลองนี้จะเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรในการยกระดับการเพาะปลูกของตน เพื่อให้มีผลประกอบการที่สูงขึ้น มีความเสี่ยงในการทำการเกษตรลดลง นำไปสู่ความยั่งยืน”
ทั้งนี้ผลผลิตเมลอน จากการทดลองการปลูกในครั้งนี้ ได้นำไปส่งมอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานต่อสู้กับวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โดยมี ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นตัวแทนรับมอบ
///////////////
ผู้เรียบเรียงและกราฟิก: นางสาวภัทรา สัปปินันทน์ ฝ่ายสร้างสรรค์สื่อและผลิตภัณฑ์ สวทช.
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อศึกษาวิจัยและพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร
หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป