“ผึ้งชันโรง” แมลงผู้ช่วยเกษตรกรปลูกกาแฟอาราบิก้าให้มีรสชาติกลิ่นหอม เป็นเอกลักษณ์

.(วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กล่าวว่า ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ โดยสถานีวิจัยลำตะคอง ได้รับโจทย์จากกระทรวง อว.ให้ดำเนินโครงการงานวิจัยและพัฒนากาแฟอาราบิก้าแบบครบวงจร ภายใต้การดำเนินงานตามนโยบาย BCG ตลอดจนการเพิ่มปริมาณผลผลิตและคุณภาพของกาแฟอาราบิก้าด้วยการใช้แมลงผสมเกสร คณะวิจัย วว.ได้ดำเนินโครงการฯ ณ หมู่บ้านขุนลาว ตำบลแม่เจดีย์ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงใหม่ บนเทือกเขาสูงกว่า 1,300 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำและเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟอาราบิก้าแบบใต้ร่มเงาไม้ โดยไม่ใช้สารเคมี จากการดำเนินโครงการพบว่า “ผึ้งชันโรง” เป็นแมลงผสมเกสรในกลุ่ม ผึ้ง ต่อแตน ที่มีบทบาทและประสิทธิภาพสูงสุดในการผสมเกสรดอกกาแฟและยังพบว่า ผึ้งชันโรง ทำให้ผลเชอรี่กาแฟสุกแก่สม่ำเสมอมากขึ้น ทำให้ได้ผลผลิตกาแฟมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะเมื่อนำกาแฟมาคั่วแบบอ่อน light roasted จะทำให้ได้รสชาติและกลิ่นของกาแฟมากที่สุด

นายวิศรุต สุขะเกตุ นักทดลองวิทยาศาสตร์วิจัย สถานีวิจัยลำตะคอง ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ วว. หนึ่งในทีมคณะวิจัย กล่าวว่า วว. เข้าไปทำงานวิจัยและแสดงให้ชาวบ้าน เห็นว่า แมลงผสมเกสรประจำถิ่นตามธรรมชาติ มีคุณค่าต่อเกษตรกรในพื้นที่อย่างไร การปลูกพืชแบบอินทรีย์จะเป็นการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพนี้ให้คงอยู่และได้ใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ดังนั้น วว. จึงมีการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงรังผึ้งชันโรง โดยติดตั้งรังผึ้งชันโรงใต้ร่มเงาไม้ในสวนกาแฟ นอกจากผึ้งชันโรง จะช่วยผสมเกสรให้กับดอกกาแฟและพืชผลชนิดอื่นๆ แล้ว ยังทำให้ชาวบ้านสามารถเก็บน้ำผึ้งจากชันโรงเพื่อขายสร้างรายได้

ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร วว.เข้ามามีบทบาทในการต่อยอดงานวิจัยครั้งนี้ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพจากน้ำผึ้งชันโรง เช่น เจลสมานแผลจากชันโรง ครีมลดความหย่อน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวผลงานวิจัยและพัฒนา หรืองานบริการอุตสาหกรรม วว. ติดต่อได้ที่
โทร. 02577 9000 อีเมล tistr@tistr.or.th www.tistr.or.th Line@tistr