แนวรอยต่อระหว่างมวลอากาศอุ่นกับมวลอากาศเย็น
แนวปะทะอากาศ (Fronts) คือเส้นแบ่งเขตระหว่างมวลอากาศอุ่นและชื้นกับมวลอากาศเย็นและแห้ง โดยในสภาพอุดมคติ มวลอากาศทั้งสองฝั่งของแนวปะทะจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกันด้วยความเร็วเท่ากัน ซึ่งในกรณีนี้ แนวปะทะจะทำหน้าที่เพียงเป็นเสมือนกำแพงกั้นที่เคลื่อนที่ไปพร้อมกับมวลอากาศทั้งสองฝั่งโดยไม่เกิดการปะทะรุนแรง
แต่ในความเป็นจริง มักจะมีมวลอากาศฝั่งหนึ่งที่เคลื่อนที่เร็วกว่าอีกฝั่งหนึ่ง ทำให้เกิดการเคลื่อนที่เข้าหากันอย่างไม่สมดุล และบริเวณแนวปะทะนี้เองที่มักจะเกิดศูนย์ความกดอากาศต่ำ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของฝนตกและสภาพอากาศรุนแรงในภูมิภาคละติจูดกลาง
การปะทะกันของมวลอากาศ
แม้จะมีการผสมตัวกันของมวลอากาศตามแนวปะทะ โดยเฉพาะเมื่อมวลอากาศหนึ่งถูกยกตัวขึ้นเหนืออีกมวลหนึ่ง แต่มวลอากาศแต่ละกลุ่มก็ยังคงลักษณะเฉพาะของตนไว้ได้
ไม่ว่ามวลอากาศใดจะเป็นฝ่ายเคลื่อนที่เข้าหาอีกฝ่าย มักจะเป็นมวลอากาศที่อุ่นกว่า (ความหนาแน่นน้อยกว่า) ที่ถูกยกตัวขึ้นเหนือมวลอากาศเย็น (ความหนาแน่นมากกว่า) ซึ่งทำหน้าที่เหมือนลิ่มที่ดันให้อากาศอุ่นยกตัวขึ้น
แม้ว่ามวลอากาศจะมีขนาดใหญ่ แต่แนวปะทะนั้นถือว่าแคบเมื่อเทียบกัน โดยปกติกว้างเฉลี่ยประมาณ 15 ถึง 200 กิโลเมตร
บนแผนที่อากาศ:
-
Warm front (แนวอากาศอุ่น) แสดงด้วยเส้นสีแดง มีครึ่งวงกลมสีแดงชี้เข้าไปยังมวลอากาศเย็น
-
Cold front (แนวอากาศเย็น) แสดงด้วยเส้นสีน้ำเงิน มีสามเหลี่ยมสีน้ำเงินชี้เข้าไปยังมวลอากาศอุ่น
แนวปะทะอากาศอุ่น (Warm Front)
แนวปะทะอากาศอุ่นเกิดขึ้นเมื่อ มวลอากาศอุ่นเคลื่อนที่เข้ามาแทนที่ตำแหน่งที่เคยเป็นของมวลอากาศเย็น
เนื่องจากอากาศอุ่นมีความหนาแน่นน้อยกว่า จึงไม่สามารถแทนที่มวลอากาศเย็น (ซึ่งหนาแน่นมากกว่า) ได้โดยตรง จึงเกิดเป็นแนวรอยต่อที่มีความลาดเอียงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เมื่ออากาศอุ่นไหลขึ้นเหนือมวลอากาศเย็น มันจะ ขยายตัวและเย็นลงตามกระบวนการอะเดียแบติก (adiabatic cooling) ส่งผลให้เกิดการก่อตัวของเมฆ และมักมีฝนตกตามมา
เนื่องจากแนวปะทะอากาศอุ่นมีความลาดต่ำและเคลื่อนที่ช้า จึง มักก่อให้เกิดฝนตกปานกลางถึงเบา ต่อเนื่องเป็นเวลานาน และครอบคลุมพื้นที่กว้าง
เมื่อมวลอากาศอุ่นเข้ามาแทนที่อย่างสมบูรณ์ จะสังเกตได้ว่า อุณหภูมิบริเวณนั้นจะสูงขึ้นอย่างชัดเจน
แนวปะทะอากาศเย็น (Cold Front)
แนวปะทะอากาศเย็นเกิดขึ้นเมื่อ มวลอากาศเย็นเคลื่อนเข้ามาแทนที่บริเวณที่เคยถูกครอบครองโดยมวลอากาศอุ่น
โดยทั่วไป แนวปะทะอากาศเย็นเคลื่อนที่เร็วกว่าแนวอากาศอุ่น โดยมีความเร็วเฉลี่ยประมาณ 35–50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่แนวอากาศอุ่นเคลื่อนที่เพียง 25–35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แรงเสียดทานระหว่างแนวอากาศเย็นที่เคลื่อนที่เข้ามาและมวลอากาศอุ่นทำให้ แนวปะทะอากาศเย็นมีความลาดชันมากกว่าแนวอากาศอุ่นถึงสองเท่า
ด้วยความเร็วและความชันที่สูงขึ้น ทำให้สภาพอากาศที่เกิดจากแนวอากาศเย็นมักจะ รุนแรงกว่า เช่น ลมแรง ฝนตกหนัก หรือพายุฝนฟ้าคะนอง
แม้ว่าฝนที่ตกจะมีความรุนแรงมาก แต่โดยปกติ จะตกในช่วงเวลาสั้น ๆ
หลังจากแนวอากาศเย็นเคลื่อนผ่านไปแล้ว บริเวณนั้นจะถูกครอบคลุมด้วยมวลอากาศที่เย็นกว่า และ ท้องฟ้ามักจะเริ่มโปร่งใสขึ้นในพื้นที่ที่แนวปะทะเคลื่อนผ่านไปแล้ว
สรุป
แนวปะทะอากาศ คือเขตรอยต่อระหว่าง มวลอากาศที่มีอุณหภูมิและความชื้นต่างกัน เช่น อากาศอุ่นกับอากาศเย็น แนวปะทะนี้เป็นบริเวณที่มักเกิด ฝนตก เมฆหนา ลมแรง หรือพายุ โดยเฉพาะในเขตละติจูดกลาง
Warm Front – แนวปะทะอากาศอุ่น
-
เกิดเมื่อ มวลอากาศอุ่น เคลื่อนที่เข้าแทนที่มวลอากาศเย็น
-
อากาศอุ่นไหลขึ้นช้า ๆ บนมวลอากาศเย็น ทำให้เกิดแนวลาดต่ำ
-
ทำให้เกิด ฝนตกเบาถึงปานกลาง ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
-
อุณหภูมิจะ สูงขึ้น หลังแนวปะทะเคลื่อนผ่าน
-
แสดงด้วยเส้นสีแดงและครึ่งวงกลมบนแผนที่
Cold Front – แนวปะทะอากาศเย็น
-
เกิดเมื่อ มวลอากาศเย็น เคลื่อนที่เข้าแทนที่มวลอากาศอุ่น
-
เคลื่อนที่เร็วกว่าและมีแนวลาดชันกว่า warm front
-
ทำให้อากาศอุ่นยกตัวขึ้นเร็ว เกิดฝนตกหนัก พายุ ลมแรง
-
ฝนมัก ตกแรงแต่ไม่นาน
-
อากาศจะ เย็นลง และท้องฟ้าโปร่งหลังจากผ่านแนวปะทะ
-
แสดงด้วยเส้นสีน้ำเงินและสามเหลี่ยมบนแผนที่
ประเภท | ลักษณะอากาศ | ฝน | หลังผ่านไปแล้ว |
---|---|---|---|
Warm Front | อุ่นไหลขึ้นช้า | เบา-ปานกลาง | อุ่นขึ้น |
Cold Front | เย็นดันเข้าแรง | หนักแต่สั้น | เย็นลง |
Content Provided by :
Vancouver School Board
Powered by :
NSTDA Online Learning Project
เผยแพร่ : ณาดาร์ หมื่นชล
กลุ่มพัฒนาระบบสารสนเทศ (พร.)
กองระบบและบริหารข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กรข.)
สํานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
Social Media
Facebook : stkcsociety
Twitter : stkcsociety
Tiktok : stkcsociety
Youtube channel : STKC Society