กระแสธารใหญ่แห่งมหาสมุทร

วันที่เผยแพร่: 
Wed 23 April 2025

มหาสมุทรสำคัญของโลกนั้นเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

 

ผิวน้ำของมหาสมุทรส่วนใหญ่ถูกขับเคลื่อนโดยกระแสลม เมื่อลมพัดผ่าน พลังงานจากอากาศที่เคลื่อนที่ก็จะถูกถ่ายทอดมายังผิวน้ำผ่านแรงเสียดทาน ซึ่งทำให้ชั้นผิวน้ำเริ่มเคลื่อนที่ ตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของลมในการก่อให้เกิดกระแสน้ำผิวหน้า คือบริเวณมหาสมุทรอินเดียตอนเหนือ ซึ่งเกิดการเปลี่ยนทิศทางลมตามฤดูกาล หรือที่รู้จักกันในชื่อ ลมมรสุมฤดูร้อนและฤดูหนาว เมื่อลมเปลี่ยนทิศ กระแสน้ำผิวหน้าก็จะเปลี่ยนทิศทางตามไปด้วย

 

 

อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของผิวน้ำในมหาสมุทร หรือที่เรียกว่ากระแสน้ำ คือ การหมุนของโลก
การหมุนของโลกทำให้วัตถุหรือของไหลที่เคลื่อนที่อย่างอิสระ รวมถึงลม ถูกเบนทิศทางออกจากแนวการเคลื่อนที่เดิม — โดยจะเบนไปทางขวาในซีกโลกเหนือ และไปทางซ้ายในซีกโลกใต้ ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า ผลโคริโอลิส (Coriolis Effect) ตั้งชื่อตามนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสผู้ค้นพบ
ผลโคริโอลิสมีผลต่อ “ทิศทาง” เท่านั้น ไม่ส่งผลต่อ “ความเร็ว” และจะส่งอิทธิพลรุนแรงที่สุดบริเวณขั้วโลก และค่อย ๆ อ่อนกำลังลงเมื่อเข้าใกล้เส้นศูนย์สูตร ด้วยเหตุนี้ ทิศทางของกระแสน้ำในมหาสมุทรจึงไม่สอดคล้องกับทิศทางลมอย่างสมบูรณ์

 

กระแสน้ำเส้นศูนย์สูตร (Equatorial Currents) คือกระแสน้ำสองสายที่เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตก ซึ่งพบได้ทั้งทางตอนเหนือและตอนใต้ของเส้นศูนย์สูตร กระแสน้ำเหล่านี้ถูกขับเคลื่อนหลัก ๆ โดยลมค้า (Trade Winds) ที่พัดจากตะวันออกเฉียงเหนือในซีกโลกเหนือ และจากตะวันออกเฉียงใต้ในซีกโลกใต้ อันเป็นผลมาจาก ปรากฏการณ์โคริโอลิส (Coriolis Effect) กระแสน้ำจึงถูกเบนทิศทางเข้าหาขั้วโลก ทำให้เกิดวงน้ำหมุน (gyres) ขนาดใหญ่ที่หมุนตามเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ และทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกใต้ รูปแบบการไหลเกือบเป็นวงกลมเหล่านี้สามารถพบได้ในแอ่งมหาสมุทรหลักของโลกแต่ละแห่ง

 

 

กระแสน้ำผิวมหาสมุทรที่รู้จักกันดีที่สุดและได้รับการศึกษามากที่สุด คือ "กระแสน้ำกัลฟ์สตรีม" (Gulf Stream)
เมื่อกระแสน้ำเส้นศูนย์สูตรเหนือในมหาสมุทรแอตแลนติกถูกเบนขึ้นทางเหนือผ่านทะเลแคริบเบียน มันจะกลายเป็นกระแสน้ำกัลฟ์สตรีม กระแสน้ำสายนี้ไหลต่อขึ้นไปตามชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา และได้รับแรงเสริมจากลมประจำตะวันตก (Prevailing Westerlies) จนกระแสน้ำเบนไปทางทิศตะวันออก (ทางขวา) ระหว่างรัฐทางตอนใต้และตอนเหนือของประเทศ

เมื่อกัลฟ์สตรีมไหลต่อไปในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ กระแสน้ำจะค่อย ๆ แผ่กว้างออกและช้าลง จนกลายเป็นกระแสน้ำขนาดใหญ่ที่เคลื่อนตัวช้า เรียกว่า กระแสน้ำแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Drift)
เมื่อกระแสน้ำนี้เข้าใกล้ยุโรปตะวันตก มันจะแตกออกเป็นสองสาย – สายหนึ่งไหลขึ้นเหนือผ่านบริเวณเกาะบริเตนใหญ่ ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ โดยนำความร้อนไปยังพื้นที่ที่ปกติจะมีอากาศหนาวเย็น ส่วนอีกสายหนึ่งไหลลงใต้ กลายเป็น กระแสน้ำคะแนรีส์ (Canaries Current) และในที่สุดจะไปรวมกับกระแสน้ำเส้นศูนย์สูตรเหนืออีกครั้ง ทำให้เกิดการไหลเวียนแบบวงแหวน (gyre) ที่สมบูรณ์

       

Content Provided by :
Vancouver School Board

Powered by :
NSTDA Online Learning Project

เผยแพร่ : ณาดาร์ หมื่นชล
กลุ่มพัฒนาระบบสารสนเทศ (พร.)
กองระบบและบริหารข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กรข.)
สํานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

Social Media
Facebook : stkcsociety
Twitter : stkcsociety
Tiktok : stkcsociety
Youtube channel : STKC Society

Hits 61 ครั้ง
หมวดหมู่ OECD: