เปิดประวัติ - เรือหลวงพระร่วง เรือรบลำแรกของไทย

วันที่เผยแพร่: 
Mon 9 December 2024
 เปิดประวัติ – เรือหลวงพระร่วง 

เรือหลวงพระร่วง เป็นชื่อของเรือรบที่มีบทบาทสำคัญในกองทัพเรือไทยในอดีต ซึ่งมีชื่อเสียงและประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในฐานะเรือรบหลวงลำแรกของราชอาณาจักรสยามที่เป็นเรือลาดตระเวนเบา (light cruiser) ที่ได้รับการสั่งต่อจากต่างประเทศ

ประวัติเรือหลวงพระร่วง

เรือหลวงพระร่วงเป็นเรือหลวงลำแรกในประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งข้าราชการและประชาชนผู้มีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องสร้างเรือรบไว้เพื่อป้องกันราชอาราจักรทางทะเล จึงร่วมกันจัดตั้ง ราชนาวีสมาคมแห่งกรุงสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ (The Royal Navy League of Siam) ขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2457 เพื่อเรี่ยไรทุนทรัพย์ซื้อเรือรบถวายเป็นราชพลี พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีความยินดีและเห็นชอบ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานนามเรือนี้ว่า “พระร่วง” อันเป็นสิริมงคลตามวีรกษัตริย์อันเป็นที่นับถือของชาวไทยทั่วไป พระองค์ทรงเป็นกำลังสำคัญในการหาทุนเพื่อสร้างเรือลำนี้ เช่น ได้แก้ไขบทละครเรื่อง “มหาตมะ” ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2475 ทรงนำเรื่องการเสียสละทุนทรัพย์สมทบทุนสร้างเรือรบเข้ามาเป็นหัวใจของเรื่อง และได้โปรดเกล้า ฯ ให้มีการแสดงเพื่อเก็บเงินสมทบทั้งในพระนครและต่างจังหวัด ทั้งยังมีการแสดงละครพระราชนิพนธ์อีกหลายเรื่องตลอดจนโปรดเกล้า ฯ ให้มีการประกวดภาพเพื่อหารายได้อีกด้วย นอกจากนั้นพระองค์ยังได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพรองค์เป็นจำนวน 80,000 บาท กับเงินที่พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการได้พร้อมใจกันออกทุนเรี่ยไรถวายเมื่อครั้งจัดงานพระราชพิธีทวีธาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งยังเหลือจากการใช้จ่ายเป็นจำนวนเงิน 116,324 บาท ทั้งยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ซึ่งโปรดเกล้า ฯ พระราชทานทรัพย์อีกเป็นจำนวนเงิน 40,000 บาท เมื่อรวมกับเงินที่เรี่ยไรทั่วพระราชอาณาจักร ได้จำนวนรวมทั้งสิ้น 3,514,604 บาท 1 สตางค์ ในปี พ.ศ. 2463 เรือดังกล่าวมีชื่อเดิมว่า เรเดียนท์ เป็นเรือของอังกฤษ เคยใช้รบในสงครามโลกครั้งที่ 1 สร้างที่ บริษัท ทอร์นิครอฟท์ เมืองเซาธัมพ์ตัน สหราชอาณาจักร เมื่อกุมภาพันธ์ 2460 ส่วนชื่อ “พระร่วง” นั้น พระราชหัตถเลขาของรัชกาลที่ 6 ถึงเจ้าพระยาอภัยราชามหายุติธรรมธร ตอนหนึ่งว่า “ส่วนเรือที่สั่งเข้ามาตามความคิดนั้น เจ้าพระยาอภัยราชา ขอให้เราคิดนามให้เราได้นึกถึงนามวีรกษัตริย์ อันเป็นที่นับถือของชาวไทย ทั่วไปคือ ‘พระร่วง’ ซึ่งถือกันโดยทั่วไปว่า ‘ขลัง’ ”

เรือลำนี้สร้างขึ้นในประเทศอังกฤษในปี พ.ศ. 2472 (ค.ศ. 1929) ต่อโดยบริษัท อาร์มสตรอง วิทเวิร์ธ (Armstrong Whitworth) ในเมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ เป็นเรือรบประเภท light cruiser หรือเรือลาดตระเวนเบา มีขนาด 2,350 ตัน

สมรรถนะของเรือพระร่วง

สมรรถนะของเรือหลวงพระร่วงลำนี้ คือ มีระวางขับน้ำ 1,046 ตัน ความเร็ว 35 นอต มีความยาวตลอดลำ 83.57 เมตร ความกว้างสุด 8.34 เมตร กินน้ำลึก 4 เมตร อาวุธประจําเรือ จะมีอาวุธปืน 102 มิลลิเมตร 3 กระบอก ปืน 76 มิลลิเมตร 1 กระบอก ต่อมาติดปืน 40 มิลลิเมตร 2 กระบอก ปืน 20 มิลลิเมตร 2 กระบอก มีตอร์ปิโด 21 นิ้ว จำนวน 4 ท่อ มีรางปล่อยระเบิดลึกและแท่นยิงปืนระเบิดลึก 2 แท่น เครื่องจักรเป็นแบบไอน้ำแบบ บี.ซี. เกียร์ เทอร์ไบน์ จำนวน 2 เครื่อง ใบจักรคู่ กำลัง 29, 000 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 35 น นอต ความเร็วมัธยัสถ์ 14 นอต รัศมีทำการเมื่อความเร็วมัธยัสถ์ 1,896 ไมล์ และกําลังพลประจําเรือจำนวน 135 คน

บทบาทในราชนาวีไทย

เรือลำนี้มีบทบาทสำคัญในการลาดตระเวนและคุ้มครองอธิปไตยของไทยในยุคนั้น เข้าร่วมในเหตุการณ์สำคัญ เช่น การรักษาความสงบในช่วงความขัดแย้งระหว่างไทยกับฝรั่งเศสในอินโดจีนปลดประจำการ ในภารกิจเพื่อความมั่นคงของประเทศทางทะเลตามเจตนารมณ์ในการซื้อเรือหลวงพระร่วงตั้งแต่ต้น นอกจากนี้ เรือหลวงพระร่วงยังทำหน้าที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือรับพระศพกรมหลวงชุมพรฯ กลับกรุงเทพฯ

การปลดประจำการเรือหลวงพระร่วง

เรือหลวงพระร่วง ปลดระวางประจำการ วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2502 (เรือหลวงพระร่วงขึ้นระวางประจําการเพื่อใช้ราชการกองทัพเรือตั้งแต่ 11 ตุลาคม 2463 ถึงวันที่ 19 มิถุนายน 2502) รวมอายุราชการในกองทัพเรือไทย รวมระยะเวลาประมาณ 39 ปี (ปล่อยเรือลงน้ำ 5 พฤศจิกายน 2459) รวมอายุเรือ ประมาณ 43 ปี

ความสำคัญทางประวัติศาสตร์

เรือหลวงพระร่วงถือเป็นเรือรบลำแรกที่แสดงถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของไทยในการพัฒนากองทัพเรือให้ทันสมัยในยุคที่มหาอำนาจทางทะเลมีบทบาทสำคัญในภูมิภาค นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงการติดต่อและพึ่งพาความรู้เทคโนโลยีทางการทหารจากต่างประเทศในสมัยนั้น เรือหลวงพระร่วงจึงเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของการพัฒนากองทัพเรือไทยในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และยังคงเป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์ของราชนาวีไทยจนถึงปัจจุบัน

 

เผยแพร่ : ณาดาร์ หมื่นชล
(เจ้าหน้าที่พัฒนาและบริหารจัดการสารสนเทศ)
สํานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กองระบบและบริหารข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กรข.)
กลุ่มพัฒนาระบบสารสนเทศ (พร.)

 

Social Media
Facebook : stkcsociety
Twitter : stkcsociety
Tiktok : stkcsociety
Youtube channel : STKC Society

แหล่งที่มา

ศิลปวัฒนธรรม

รูป
https://www.navanurak.in.th/tr_museum/index/application/detail_object.ph...

เจ้าของข้อมูล: 
กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม
Hits 1,353 ครั้ง
หมวดหมู่ OECD: