Keystone species กุญแจหัวใจระบบนิเวศ

วันที่เผยแพร่: 
Fri 14 May 2021

Keystone species กุญแจหัวใจระบบนิเวศ

ก่อนจะทำความรู้จักกับสิ่งมีชีวิตชนิดนี้เรามารู้จักกับที่มาของชื่อ Keystone species เพื่อทำให้เข้าใจความสำคัญของสิ่งมีชีวิตจำพวก Keystone มากขึ้น

Keystone คือชื่อของหินบริเวณกึ่งกลางโครงสร้างสิ่งก่อสร้างในอาณาจักรโรมัน ซึ่งเป็นโครงสร้างซุ้มประตูลักษณะโค้งเรียกกันว่าอาร์ช (arch) หินบริเวณกึ่งกลางทำหน้าที่รับแรงของหินทั้งหมดทำให้โครงสร้างซุ้มประตูสามารถคงโครงสร้างรูปโค้งได้โดยไม่ให้หล่นหรือผิดรูปแต่เมื่อใดก็ตามที่หินชิ้นนี้หายไปโครงสร้างทั้งหมดก็จะพังทลายลงมาจึงเป็นกุญแจสำคัญของโครงสร้างซุ้มโค้งหรือที่เรียกว่ากุญแจหิน Keystone

เปรียบกับชนิดของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศที่อยู่ร่วมกันเป็นวัฏจักร สายใยอาหาร (Food web) ห่วงโซ่อาหาร (Food chain) ไปจนถึงการหมุนเวียนสารในระบบนิเวศ (Life cycle) สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นหินบริเวณกึ่งกลางของอาร์ชเปรียบเสมือนผู้สร้างความสมดุลกับระบบนิเวศให้คงอยู่ไม่พังล้มครื้นลงมาทั้งระบบเหมือนซุ้มโค้งคือสิ่งมีชีวิตที่เป็นกุญแจสำคัญของระบบนิเวศเช่นกัน Keystone species จึงได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหลักของระบบนิเวศ

สิ่งมีชีวิตชนิดหลักส่วนใหญ่เป็น top บนยอดพีระมิดประชากรในระบบนิเวศซึ่งมีประชากรน้อยมากเมื่อเทียบกับอิทธิพลแบบ top-down effect ของมันเองทั้งในรูปแบบพฤติกรรมและห่วงโซ่อาหารส่งผลกระทบรุนแรงกับสิ่งมีชีวิตจากบนลงล่างของพีระมิดประชากรเมื่อตัวมันเองสูญพันธุ์ทำให้ระบบนิเวศทั้งระบบพังลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เสือดำถูกจัดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ (EN) และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองของไทย และเป็นหนึ่งใน keystone species ที่ช่วยควบคุมสมดุลของระบบนิเวศ ในฐานะสัตว์ผู้ล่าสูงสุดในระบบนิเวศ ควบคุมจำนวนของสัตว์กินพืช ถ้าขาดเสือดำ ระบบนิเวศจะมีผลเสีย เพราะสัตว์กินพืชที่เป็นเหยื่อมีมากเกินไป

Keystone species มีหลายชนิดทั้งพืชและสัตว์ต่างก็เป็น Keystone species ได้ในระบบนิเวศหนึ่งๆ บนยอดของพีระมิดประชากรสิ่งมีชีวิตชนิดหลักนี้มีบทบาทในรูปแบบของผู้บริโภคลำดับสุดท้ายหรือผู้ล่าแต่ก็ไม่เสมอไปแล้วแต่ปัจจัยสำคัญของแต่ละระบบนิเวศ หัวใจหลักของการเลือกชนิดพันธุ์ Keystone species คือความโดดเด่นของพฤติกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิตแวดล้อมเพื่อควบคุมประชากรทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น หากไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดหลักทำหน้าที่ล่าเพื่อควบคุมประชากรสัตว์กินพืช ทำให้ในระบบนิเวศมีสัตว์กินพืชเกินสมดุลที่ระบบต้องการทำให้พืชซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตในระบบน้อยลงไม่พอต่อความต้องการระบบนิเวศทั้งหมดจึงไม่สามารถดำรงวัฏจักรต่อไปได้และพังลงมาในที่สุด

การบุกรุกพื้นที่ป่าของมนุษย์ทำการเกษตรเชิงเดี่ยวสวนยาง ปาล์มน้ำมัน และพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นๆ การเพิ่มสิ่งปลูกสร้างที่อยู่อาศัย การตัดถนนเพื่อการคมนาคมล้วนแต่ทำให้พื้นที่ป่าบริเวณนั้นถูกลดความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity) บทความนี้ของผู้เขียน Keystone species จึงเป็นหัวใจสำคัญว่าทำไมเราถึงต้องตระหนักกับ Road Kills หายนะสัตว์ป่า และ Wildlife crossing ทางเชื่อมสัตว์ป่า ในบทความก่อนหน้าของผู้เขียนล้วนเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ได้

แหล่งที่มา https://www.scimath.org/article-biology/item/11639-keystone-species

QR Code for https://www.stkc.go.th/stiarticle/keystone-species-%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A8
Hits 1,000 ครั้ง