ฟาร์มเพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเลขยายตัว เพื่อผลิตอาหารและเชื้อเพลิงแห่งอนาคต

วันที่เผยแพร่: 
Tue 8 September 2020

ลมและฝนกำลังตกลงมา ขณะที่เรือยนต์กำลังแล่นผ่านฟยอร์ดแห่งหนึ่งในหมู่เกาะแฟโร

"ที่นี่ลมค่อนข้างแรง" โอลาเวอร์ เกรกาเซน กล่าว "เดี๋ยวก็รู้ว่าเราจะเข้าไปใกล้เรือเก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากแค่ไหน"

ไม่นาน เราก็ไปถึงจุดกำบังที่เป็นภูเขาสูงชัน ส่วนบนท้องทะเลก็มีทุ่นหลายร้อยอันลอยอยู่เต็มไปหมด

"ทุ่นเหล่านี้ยึดเชือกแนวตั้งไว้" นายเกรการ์เซน กรรมการผู้จัดการของบริษัทโอเชียนเรนฟอเรสต์ (Ocean Rainforest) ผู้ผลิตสาหร่ายทะเล อธิบาย "ทุก ๆ หนึ่งเมตร จะมีเชือกห้อยอยู่ ใช้เป็นที่เลี้ยงสาหร่ายทะเล"

ปะทะคลื่น
แท่นเพาะเลี้ยงสาหร่ายนี้ถูกสมอยึดไว้กับท้องทะเล ประกอบด้วยเชือกที่มีลักษณะเหมือนโครงตาข่ายยาว 50,000 เมตร ออกแบบมาเพื่อต้านทานต่อคลื่นลมแรงในทะเล

"โครงสร้างหลักอยู่ลึกลงไป 10 เมตร การทำเช่นนั้นช่วยให้เราเลี่ยงการปะทะกับคลื่นลูกใหญ่ที่สุดได้" เขาเล่า

แม้ว่าจะหมู่เกาะแฟโรของเดนมาร์กจะตั้งอยู่ในแอตแลนติกเหนือที่อยู่ห่างไกล นายเกรการ์เซน บอกว่า น่านน้ำที่ลึกจะอุดมไปด้วยสารอาหารและเหมาะสำหรับการเลี้ยงสาหร่ายทะเล นอกจากนี้ยังมีอุณหภูมิคงที่ระหว่าง 6-11 องศาเซลเซียส

สาหร่ายทะเลเป็นสาหร่ายที่โตเร็ว พวกมันใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และดูดซึมสารอาหารและคาร์บอนไดออกไซด์จากน้ำทะเล นักวิทยาศาสตร์ บอกว่า สาหร่ายทะเลอาจช่วยต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกได้ และช่วยชดเชยการปล่อยคาร์บอนได้ทั้งหมด

โอเชียน เรนฟอเรสต์ เพิ่งได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ เมื่อไม่นานนี้ เพื่อสร้างระบบที่คล้ายคลึงกันนี้ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งต้องการพัฒนาการผลิตสาหร่ายทะเลระดับอุตสาหกรรมสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวภาพในอนาคต

บนเรือเก็บเกี่ยวผลผลิต คนขับเรือควบคุมแขนกลที่ยกเชือกขึ้นมาจากน้ำ สาหร่ายถูกตัดออก และนำไปใส่ในถังเก็บ มันเป็นงานที่ใช้เวลาไม่นาน แต่ดูวุ่นวาย จากนั้นเชือกจะถูกหย่อนกลับลงไปเลี้ยงสาหร่ายใหม่ คาดว่าปีนี้จะเก็บเกี่ยวผลผลิตสาหร่ายทะเลได้ราว 200 ตัน

สาหร่ายทะเลจำเป็นต้องผ่านการแปรรูปอย่างรวดเร็ว ที่โรงงานขนาดเล็กแห่งหนึ่งในหมู่บ้านคาล์ดบากของหมู่เกาะแฟโร เครื่องจักรกำลังทำความสะอาดผลผลิตที่เก็บมาได้ บางส่วนถูกทำให้แห้ง และส่งไปให้ผู้ผลิตอาหาร ส่วนที่เหลือถูกนำไปหมักและส่งไปให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์

สาหร่ายทะเลที่ถูกเพาะเลี้ยงในฟาร์มส่วนใหญ่ถูกบริโภคเป็นอาหาร แต่สารสกัดถูกนำไปใช้ในหลากหลายผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นยาสีฟัน เครื่องสำอาง ยา หรืออาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะมีส่วนผสมของไฮโดรคอลลอยด์ (hydrocolloid) ที่มาจากสาหร่ายทะเล ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มความหนืดหรือความข้น

นอกจากนี้กำลังมีผลิตภัณฑ์อีกจำนวนมากที่ต้องการใช้สารสกัดจากสาหร่ายทะเล โดยมีบริษัทหลายแห่งที่กำลังผลิตวัสดุที่จะนำมาใช้แทนสิ่งทอและพลาสติก รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ แคปซูลน้ำ และหลอดดูด

การผลิตสาหร่ายทะเลกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติระบุว่า ในช่วงปี 2005-2015 ปริมาณการผลิตเพิ่มเป็นสองเท่า เกิน 30 ล้านตันต่อปี ธุรกิจการผลิตสาหร่ายทะเลมีมูลค่ามากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั่วโลก หรือราว 1.85 แสนล้านบาท

แต่มีการผลิตจำนวนไม่มากอยู่นอกภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นแหล่งทำฟาร์มสาหร่ายทะเลมายาวนาน แต่ส่วนใหญ่จะใช้แรงงานคน

การผลิตสาหร่ายทะเลกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติระบุว่า ในช่วงปี 2005-2015 ปริมาณการผลิตเพิ่มเป็นสองเท่า เกิน 30 ล้านตันต่อปี ธุรกิจการผลิตสาหร่ายทะเลมีมูลค่ามากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั่วโลก หรือราว 1.85 แสนล้านบาท

แต่มีการผลิตจำนวนไม่มากอยู่นอกภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นแหล่งทำฟาร์มสาหร่ายทะเลมายาวนาน แต่ส่วนใหญ่จะใช้แรงงานคน

น้ำทะเลจากลากูนริมฝั่งทะเลไหลเข้ามายังบ่อเลี้ยงปลา จากนั้น มันจะถูกสูบผ่านระบบกรองเข้าไปเก็บในถังเพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเล นอกจากนี้ยังมีที่เพาะต้นอ่อนสาหร่ายด้วย

เธอบอกว่า "เราต้องคิดค้นขึ้นมาใหม่หมด"

น้ำเหล่านี้อุดมไปด้วยไนโตรเจน ซึ่งสาหร่ายดูดซึมไปเป็นอาหาร เลียนแบบสภาพแวดล้อมในธรรมชาติ "เราไม่จำเป็นต้องเพิ่มสารอะไรเข้าไป ไม่ต้องใช้ปุ๋ย เราใช้น้ำจากการเลี้ยงปลาในการเลี้ยงสาหร่ายทะเลของเรา" เธอเล่า

นางอาบริว ไม่คิดว่า เรื่องที่ดินจะเป็นข้อจำกัด เธอบอกว่า ที่ดินที่เคยใช้ทำนาเกลือและฟาร์มเลี้ยงปลาเดิมสามารถนำมาใช้เลี้ยงสาหร่ายทะเลได้ โดยชี้ว่า มีที่ดินจำนวนมหาศาลที่เอามาใช้ทำฟาร์มได้ทั้งในโปรตุเกส ฝรั่งเศส อิตาลี กรีซ และตุรกี

มีการทำฟาร์มสาหร่ายทะเลบนบกในแคนาดาและแอฟริกาใต้ด้วย โดยสาหร่ายขนาดเล็กถูกเพาะเลี้ยงในระบบถัง แต่ยังมีความท้าทายอีกหลายอย่าง

"ปัญหาหลักก็คือ ต้นทุนพลังงาน การทำงานโดยใช้ถังจำนวนมาก คุณต้องสูบน้ำและเติมอากาศเพื่อให้น้ำไหลเวียนอยู่ตลอด" นางอาบริว กล่าว

ขณะนี้ ทางบริษัทไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยการพึ่งยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่นางอาบริว เชื่อว่า ตลาดสาหร่ายทะเลจะเติบโตขึ้นต่อไป

"มันเป็นแนวโน้มที่มาแรง" เธอกล่าว "แต่ละปี มีบริษัทเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ มีบริษัทหน้าใหม่เข้ามาในทุกขั้นตอนของสายการผลิตนี้"

Cr. https://www.bbc.com/thai/international-53958657

QR Code for https://www.stkc.go.th/stiarticle/%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95
Hits 807 ครั้ง