รู้ทันวายร้ายไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

วันที่เผยแพร่: 
Fri 11 June 2021

คาดการณ์กันว่ามนุษยชาติจะต้องสู้รบตบมือกับเจ้าไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นี้ไปอีกนานตราบเท่าที่เรายังไม่สามารถคิดค้นวัคซีนได้ ซึ่งกว่าจะสำเร็จและสามารถนำมาใช้กับคนทั่วไปได้ ก็อาจต้องรอจนปีหน้า (2021) เลย หรือถ้าจะรอให้มนุษย์สร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติขึ้นมาเองได้นั่นก็คาดการณ์ยากกว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่และกว่าจะไปถึงขั้นนั้นจะต้องสูญเสียกันไปอีกเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำกันได้จึงต้องประคองตัวระมัดระวังไม่ให้ติดเชื้อกันเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ไปก่อน

มาจนถึงวันนี้เราเองก็พอจะรู้จักเจ้าไวรัสตัวนี้กันระดับหนึ่งแล้ว โดยแนวทางการป้องกันที่รู้กันโดยทั่วไปคือ :

- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอหรือจามถึงแม้เราจะยังไม่ทราบว่าเขาติดเชื้อชนิดใดอยู่

- หลีกเลี่ยงการไปยังสถานที่แออัดหรือมีความเสี่ยงของโรคระบาด

- หมั่นล้างมือให้สะอาดหรือจะเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ก็ได้

- ควรใส่หน้ากากอนามัยอยู่เสมอโดยเฉพาะเวลาออกจากบ้าน

- ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก ถ้าไม่จำเป็น

- ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่นเช่น แก้วน้ำ ช้อน ส้อม

- รับประทานอาหารที่ปรุงสุกแล้ว

- ถ้ามีอาการไอ จาม มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดหัว เหนื่อยหอบ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

ที่ต้องตั้งข้อควรปฏิบัติกันมากมายขนาดนี้เพราะเจ้าไวรัสโคโรนาจอมเจ้าเล่ห์นี้ มีลักษณะเฉพาะตัวที่น่ากลัวกว่าเชื้อโรคอื่น ๆ หลายตัวคือ เมื่อผู้รับเชื้อรับเชื้อเข้าไปแล้วยังไม่แสดงอาการก็สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ นี่แหละทำให้มันส่งผลกระทบร้ายแรงอย่างมาก ไม่ใช่แค่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่กลไกทางเศรษฐกิจ พฤติกรรมการใช้ชีวิตและการดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ยังต้องเปลี่ยนไปด้วย เพราะลักษณะเฉพาะของมันที่ทำให้เราเรียกมันว่าจอมเจ้าเล่ห์ยังไงล่ะ

เมื่อเจอโจรแล้วเรายังหาวิธีจับตัวคนร้ายมาลงโทษไม่ได้ อย่างน้อยเราต้อง”รู้ทัน”เจ้าโจรคนนั้นเสียก่อน เหมือนกับที่เราเองยังต้อง”รู้ทัน”เจ้าไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นี้ เพิ่มเติมกันอีกหน่อยดีกว่า!
ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นแล้วเป็นซ้ำได้!!
นี่เป็นการสับขาหลอกระดับโลกเลยทีเดียว จากที่เราเคยคิดว่ายาฆ่าไวรัสนั้นไม่มีแบบจริงจัง (คือมีแค่ไม่กี่โรคและอาจมีผลข้างเคียง เรานิยมป้องกันด้วยวัคซีนดีกว่า) จึงต้องรักษาตามอาการแล้วปล่อยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเองแล้วเราจะไม่เป็นซ้ำอีก แต่จากข้อมูลล่าสุดเราพบผู้ป่วยหลายรายที่เป็นแล้วหายแล้วกลับมาเป็นซ้ำได้อีก! เราจึงต้องพยายามป้องกันตัวเองและไม่ประมาทไปอยู่ใกล้ผู้ที่ติดเชื้อที่หายแล้วเพราะเชื่อว่าร่างกายเขากำจัดเชื้อได้เองเด็ดขาด หรือกลับกันถ้าเราเป็นผู้ติดเชื้อที่หายแล้วก็ต้องไม่ประมาทไปแพร่ใส่ผู้อื่นหรือรับเชื้อมาซ้ำเช่นกัน

ล้างมือ...เชื้อก็ยังอยู่!!
จะว่าไปนี่เป็นหลักการทั่วไปของการล้างมือที่ว่าต้องล้างให้สะอาดหมดจดถึงจะได้ชื่อว่ากำจัดเชื้อหมดไปจริง ๆ ซึ่งคนส่วนมากมักจะไม่ได้ทำตามนั้นกันซักเท่าไหร่ แต่กับสถานการณ์ปกติกับเชื้อโรคที่ไม่รุนแรงแล้วหลุดไปในร่างกายปริมาณไม่มากร่างกายเราก็พอจะกำจัดได้ ทำให้ที่ผ่านมาเราล้างมือกันแบบไม่สะอาดหมดจดนักก็ยังไม่เป็นอะไร แต่กับเจ้าวายร้ายตัวนี้มันไม่ใช่น่ะสิ ถ้าเราปล่อยให้เชื้อยังหลงเหลือที่มือแล้วเข้าไปในร่างกาย เราไม่สามารถรับประกันได้ว่าภูมิคุ้มกันร่างกายเราจะเอาอยู่หรือไม่ เราจึงควรล้างมือให้สะอาดถูกต้องตามขั้นตอนดังนี้

- ชโลมมือด้วยน้ำและสบู่ในปริมาณที่มากพอ

- ถูฝ่ามือเข้าด้วยกัน ใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งถูหลังฝ่ามืออีกข้างและใช้นิ้วมือทั้งสองข้างสอดไประหว่างกันแล้วถูไปมา

- กำมือแล้วเอาหลังนิ้วของทั้งสองมือถูกัน

- ใช้มือข้างหนึ่งกำรอบนิ้วหัวแม่มืออีกข้างหนึ่งแล้วหมุนไปมาก่อนจะสลับข้างกัน

- ถูปลายนิ้วมือไปบนฝ่ามืออีกข้าง

- ล้างด้วยน้ำ เช็ดให้แห้งด้วยผ้าหรือกระดาษเช็ดมือที่สะอาด

มีความเชื่อจากคนอังกฤษว่าถ้าจะล้างมือให้สะอาดจริงให้ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู 2 รอบจะทำให้ล้างมือได้สะอาดพอดีเพราะใช้เวลาประมาณ 20 วินาที ถ้าเราจะทำมาใช้บ้างคงสนุกไม่หยอก (แต่ถ้าเราล้างมือที่ห้างหรือที่ทำงานแล้วมีคนมาต่อคิวล่ะ ก็ลองเปลี่ยนเป็นชวนเขาคุยแล้วถามเพลงที่เขาชอบแล้วชวนร้องไปด้วยกันเลยแล้วกัน)

วัคซีนสำหรับโรคอื่นหรือยาปฏิชีวนะไม่สามารถป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้!!
มีความเชื่อผิดๆอยู่ว่าถ้าเราเคยรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือไวรัสปอดอักเสบจะสามารถป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ซึ่งไม่เป็นความจริง! ถึงแม้อาการบางส่วนจะเหมือนกันก็ตาม ส่วนยาปฏิชีวนะนี่ยิ่งแล้วใหญ่เพราะจริง ๆนั่นเอาไว้สำหรับกำจัดเชื้อแบคทีเรียด้วยซ้ำ ไม่ใช่ไวรัส

แอลกอฮอล์ล้างมือ เข้มข้นน้อยไปก็ไม่ดี มากไปก็ไม่ดีอีก !!
เรามาดูกันว่าแอลกอฮอล์ที่ดีควรมีความเข้มข้นอยู่ที่เท่าไหร่กันดีกว่า ความเข้มข้นที่แนะนำสำหรับแอลกอฮอล์ล้างมือคือ 70-90% โดยปริมาตร ซึ่งความเข้มข้นระดับนี้แอลกอฮอล์จะแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ของไวรัสไปทำลายโปรตีนให้เสียสภาพแล้วทำให้เยื่อหุ้มเซลล์แตกทำลายเชื้อโรคได้

แต่กับแอลกอฮอล์ที่ความเข้มข้นเกิน 90% โดยสามัญสำนึกมันควรจะยิ่งฆ่าเชื้อได้ดีกว่าอีกไม่ใช่หรือ? คำตอบคือไม่ใช่ เพราะแอลกอฮอล์ที่ความเข้มข้นมากเกินจะไม่สามารถแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ของเชื้อโรคได้และระเหยรวดเร็วเกินไปก่อนที่มันจะปฏิบัติภารกิจวิสามัญฆาตกรรมเจ้าเชื้อโควิด-19ลงได้น่ะสิ

ถึงตอนนี้แล้วก็อยากฝากเตือนให้ผู้อ่านทุกท่าน ควรติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้คอยอัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ ให้เท่าทันเจ้าวายร้ายตัวนี้ตลอดเวลา

แหล่งที่มา https://www.scimath.org/article-science/item/11492-19

QR Code for https://www.stkc.go.th/stiarticle/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B2-2019-covid-19
Hits 508 ครั้ง