สายชาร์จดูดข้อมูล ทำงานยังไง ทำไมถึงน่ากลัว
ในปัจจุบันกลโกงของมิจฉาชีพมาในหลายรูปแบบ อาจทำให้หลายคนต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นเพราะข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์มือถืออาจโดนแฮกจากการเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่โดยไม่คาคคิด รวมถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต WiFi ตามสถานที่ต่างๆ ก็มีข่าวออกมาว่าอาจเป็นอันตรายเช่นกัน
ล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลาง ได้ออกมาแจ้งเตือนภัยประชาชน เสียบสายชาร์จไม่ระวัง เสี่ยงถูกแฮกข้อมูลไม่รู้ตัว
สายชาร์จประเภทนี้ที่สำคัญที่สุดคือสาย O.MG ที่ได้รับการพัฒนาโดย ไมค์ โกรเวอร์ (Mike Grover) หรือนามแฝงคือ MG ที่มีการฝังอุปกรณ์ที่สามารถสร้างฮอตสปอตกระจายสัญญาณไวไฟ (WiFi Hotspot) จะช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของตัวเองเพื่อดักจับข้อมูลทุกอย่างที่เหยื่อพิมพ์ลงบนอุปกรณ์ที่เชื่อมกับสายชาร์จนั้นได้ ซึ่งเป็นการทำงานเหมือนกับ Keylogger หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูล โดยข้อมูลที่ดักเก็บมาได้จากสายชาร์จจะไปปรากฎอยู่ในหน้าจออุปกรณ์ของอาชญากรแบบเรียลไทม์
อย่างไรก็ดี แม้ว่า MG จะระบุว่าสายชนิดนี้สามารถใช้แฮกจากระยะไกลได้ แต่ในการทดสอบของเว็บไซต์ Motherboard นั้นพบว่าผู้ที่จะแฮกอุปกรณ์ของเหยื่อผ่านสายชาร์จ O.MG จะต้องอยู่ในระยะไม่ไกลจากเป้าหมาย ทั้งนี้ ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะไม่สามารถโจมตีระยะไกลได้ เนื่องจาก อย่างที่ระบุไปก่อนหน้าว่าสาย O.MG เป็นตัวอย่างของสายประเภทนี้เท่านั้น ยังมีความเป็นไปได้ว่ามีสายอีกมากที่อาจจะมีประสิทธิภาพสูงยิ่งกว่านี้
ซึ่งหากสายประเภทนี้คือสายที่เหยื่อที่ปรากฎอยู่ในข่าวใช้จริง ก็อาจเป็นไปได้ว่าแฮกเกอร์อาจเก็บข้อมูลรหัสผ่านของแอปธนาคาร จากนั้นรอเวลาที่เหยื่อไม่ได้ใช้เครื่อง เพื่อล็อกอินเข้าไปยังแอปธนาคารไปโอนเงินของเหยื่อออกไปยังบัญชีของตัวเองในที่สุด แต่มีข้อแม้ว่าผู้ก่อเหตุจะต้องอยู่ในระยะที่ใกล้กับเหยื่อนั้นเอง
สำหรับวิธีป้องกันที่ง่ายกว่า คือการไม่ใช้สายชาร์จของคนอื่น ใช้อะแดปเตอร์ของตัวเองเท่านั้น หรือพกแบตเตอรี่สำรองติดตัวเสมอ ควรหลีกเลี่ยงการใปชาร์จในที่สาธารณะ หากจำเป็นต้องชาร์จในที่สาธารณะควรเลือกชาร์จเฉพาะต่อกับเต้าเสียบเท่านั้น ไม่ควรเสียบชาร์จกับพอร์ต USB
เผยแพร่ : ว่าที่ร้อยตรีณภัทร โพธิ์อยู่
(เจ้าหน้าที่พัฒนาเว็บไซต์และประสานงานโครงการ)
สํานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กองระบบและบริหารข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กรข.)
กลุ่มพัฒนาระบบสารสนเทศ (พร.)
Social Media
Facebook : stkcsociety
Youtube channel : STKC Society
Tiktok : stkcsociety
Twitter : stkcsociety
แหล่งที่มา
https://www.pptvhd36.com/
https://www.beartai.com/