สิวที่หลังเกิดขึ้นได้อย่างไร

วันที่เผยแพร่: 
Wed 15 November 2023

     นอกจากปัญหาผิวเป็นสิวบนใบหน้าที่อาจก่อให้เกิดความไม่มั่นใจในใครหลายๆคนแล้ว สิวที่หลังก็ยังเป็นอุปสรรคต่อการใส่เสื้อผ้าเปิดหลังอีกด้วย หากใส่เสื้อเปิดหลังหรือว่าไปทะเลแล้วสิวขึ้นหลัง มีจุดนูนหรือตุ่มแดงที่เป็นจุดเด่นบนแผ่นหลังเนียน อาจส่งผลให้เกิดความรู้สึกสูญเสียความมั่นใจ สาดหตุของสิวที่เกิดขึ้นจากด้านหลังมันเกิดขึ้นได้อย่างไรบทความนี้มีคำตอบ

สาเหตุของการเกิดสิวที่หลัง

1.สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ไม่ดีพอ จึงทำให้เกิดความอับชื้นและสะสมเชื้อแบคทีเรีย สิ่งสกปรก และคราบเหงื่อไคล จนเกิดการอุดตันของรูขุมขนแล้วกลายเป็นสิวที่หลังในที่สุด
2.สวมใส่ชุดนอนซ้ำๆ ทุกวัน หลายคนมีพฤติกรรมไม่ค่อยชอบเปลี่ยนชุดนอนทุกวัน ทั้งที่เวลาเรานอนบนที่นอนนั้น แผ่นหลังจะต้องสัมผัสกับชุดนอนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้เกิดคราบเหงื่อและความอับชื้นสะสมมากขึ้น จนทำให้เกิดสิวที่หลังนั่นเอง
3.ความไม่สะอาดของเครื่องนอน โดยปกติเราควรเปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้คราบสกปรกฝังแน่นและเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรีย
4.รับประทานของทอดหรือมันๆ เป็นประจำ อาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันสูงเป็นสาเหตุทำให้เกิดสภาวะผิวมันมากขึ้น จึงทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนและเกิดสิวที่หลังได้ง่าย
5.ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ล้างออกยาก ไม่ว่าจะเป็นแชมพูหรือสบู่เหลวที่ล้างออกยาก ล้วนแต่ทำให้เกิดการตกค้างของสารเคมีต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ รวมถึงการล้างออกที่ไม่สะอาดอีกด้วย
6.ปล่อยให้เหงื่อแห้งไปกับตัว โดยไม่รีบอาบน้ำหลังจากที่เหงื่อออกจนชุ่มโชก จึงเป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่หลัง เพราะความสกปรกของคราบเหงื่อไคลและเชื้อแบคทีเรียนั่นเอง
7.ใช้ผงซักฟอกที่มีฤทธิ์รุนแรง เนื่องจากมีส่วนประกอบของสารเคมีที่ออกฤทธิ์อย่างรุนแรง จึงทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวพรรณ
8.ไม่รีบเช็ดผมและเช็ดตัวให้แห้งหลังอาบน้ำเสร็จ จึงทำให้แผ่นหลังเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา และเมื่อสวมใส่เสื้อผ้าก็จะมีความอับชื้น ทำให้เกิดแบคทีเรียสะสมได้ง่าย

วิธีรักษาสิวที่หลังแบบธรรมชาติ

1.หลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ช่วงนี้ต้องงดสครับหรือการขัดผิวชั่วคราว เนื่องจากยิ่งเราทำให้ผิวบริเวณนั้นระคายเคืองมากเท่าไร ก็จะช่วยเร่งอาการเห่อและลุกลามของสิวที่หลังมากขึ้นเท่านั้น
2.ใช้โทนเนอร์เช็ดหลังอาบน้ำ โดยชุบกับสำลีแล้วเช็ดบริเวณที่เป็นสิว เหมือนกับขั้นตอนที่เรามีสิวบนใบหน้า
3.ใช้ยารักษาสิวชนิดทา แต้มยาบริเวณที่หัวสิวอย่างสม่ำเสมอ
4.รับประทานยารักษาสิว ในกรณีนี้ควรใช้เฉพาะกับผู้ที่มีปัญหาสิวที่หลังค่อนข้างรุนแรง และควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง
5.ใช้แป้งน้ำรักษาสิว เป็นผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้อย่างต่อเนื่องได้ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง โดยจะทำให้หัวสิวแห้งและหลุดลอกออกไป

แหล่งที่มา
https://skinx.app/content/acne/what-is-acne
https://mgronline.com/infographic/detail/9600000119998

เผยแพร่ : ว่าที่ร้อยตรีณภัทร โพธิ์อยู่
(เจ้าหน้าที่พัฒนาเว็บไซต์และประสานงานโครงการ)
สํานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กองระบบและบริหารข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กรข.)
กลุ่มพัฒนาระบบสารสนเทศ (พร.)

Social Media
Facebook : stkcsociety
Youtube channel : STKC Society 
Tiktok : stkcsociety
Twitter : stkcsociety
instagram : stkcsociety

QR Code for https://www.stkc.go.th/stiarticle/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3
Hits 651 ครั้ง