หน้าฝนแล้ว ระวังโรคไข้เลือดออก

วันที่เผยแพร่: 
Mon 13 June 2022

    ช่วงหน้าฝนแบบนี้ ส่งผลให้มีน้ำขังตามที่ต่างๆ และทำให้มีความชื้นเพิ่ม จนเชื้อโรคแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออก ซึ่งเป็นโรคยอดฮิตที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค มักระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปี พบบ่อยในเด็กโต วัยรุ่น และคนวัยทำงาน ดังนั้น มาทำความรู้จักกับแต่ละโรค เพื่อเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือในช่วงหน้าฝนให้มากขึ้นกันดีกว่า

อาการ
หลังจากยุงลายกัด ประมาณ 5-7 วัน ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการไข้สูงขึ้น บางคนมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดเบ้าตา ปวดศีรษะ หลังจากมีอาการไข้ 2-3 วัน จะเริ่มมีเลือดออกตามที่ต่าง ๆ เช่น เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามจุดเล็ก ๆ ตามตัว บางคนอุจาระเริ่มเป็นสีดำ เนื่องจากเริ่มมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร แต่จุดที่ไข้เลือดออกไม่เหมือนไข้หวัดก็คือไข้เลือดออกจะไม่มีอาการไอและน้ำมูก

ความรุนแรงของโรคไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออกนั้นสามารถหายเองได้ แต่ก็มีผู้ป่วยส่วนน้อยที่มีอาการเข้าสู่ระยะรุนแรง คือหลังมีไข้ 4-5 วัน สังเกตได้จากอาการคลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะน้อยลง ไม่ร่าเริง มีเลือดออกตามร่างกาย ซึ่งระยะนี้เป็นระยะที่อันตรายควรพบแพทย์โดยด่วน

วิธีป้องกันโรคไข้เลือดออก
ปัจจุบันมีวัคซีนไข้เลือดออก แต่ประสิทธิภาพยังไม่ดีมากนักและให้ได้เฉพาะบางคนเท่านั้น เพราะฉะนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายนั่นเอง ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำในภาชนะที่ขังน้ำทุก 7 วัน เช่น แจกัน ใส่ทรายอะเบทลงในภาชนะกักเก็บน้ำ นอกจากนั้นแล้วควรออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงห่างไกลโรค

เรียบเรียง : ณภัทร โพธิ์อยู่
ข้อมูลโดย : รศ. นพ.นพพร อภิวัฒนากุล
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล

แหล่งที่มา 
https://www.rama.mahidol.ac.th/

QR Code for https://www.stkc.go.th/stiarticle/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9D%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7-%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81
Hits 306 ครั้ง