“Healing Power of Pets ยาดีจากสัตว์เลี้ยงคู่ใจ”

“มาม๊ะ ๆ !! ขอกอดหน่อย” เคยสังเกตตัวเองกันไหมว่า ไม่ว่าเราจะอารมณ์เสีย มาจากที่ไหนก็ตาม เราจะเริ่มสงบและ ใจเย็นขึ้นหรือเมื่อใช้เวลาสักพัก

ไปกับการนั่งคุย ลูบ หรือนั่งดูสัตว์เลี้ยงของเรา นั่นแหล่ะ เรากำลังถูกบำบัดจากสัตว์เลี้ยงของเราอยู่ ซึ่งการบำบัดนี้ เปรียบเสมือนได้รับยาดีแบบที่เราคาดไม่ถึง

ยาดีที่ได้จากสัตว์เลี้ยงของเรานั้น จริง ๆ แล้วกลไกในการบำบัดนี้เกิดขึ้นโดยจากอารมณ์ ความรู้สึกขณะที่เราใช้เวลาไปกับสัตว์เลี้ยง ซึ่งขณะนั้น สมองของเรา

จะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่า ออกซิโทซิน (Oxytocin) หรือ “ฮอร์โมนสายสัมพันธ์” ที่ช่วยให้เราอารมณ์ดี หัวเราะได้ง่ายขึ้น ช่วยสร้างสายใย

สัมพันธ์ระหว่างเรากับคนรอบตัว ทำให้เกิดความรู้สึกดีจากการที่เราได้รับความเชื่อใจจากคนอื่นและสามารถเข้ากับคนอื่น ๆ ได้ ซึ่งปัจจัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นนี้

มีผลแผ่ขยายไปอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือ เมื่อเรามีความสุขแล้ว จะส่งผลทำให้ระดับฮอร์โมนคอติซอล (Cortisal) ลดลง ซึ่งฮอร์โมนนี้จะหลั่งเมื่อเรามีความเครียด

ส่งผลให้ร่างกายตื่นตัวผ่านทางการกระตุ้นการสูบฉีดเลือดและเพิ่มความดันโลหิต ถ้ามีมากเกิดไปอาจทำให้เราเป็นโรคความดันสูงเรื้อรัง น้ำตาลและไขมันในเลือดสูง

รวมไปถึงการเรียนรู้และความจำแย่ลงได้ เนื่องจากฮอร์โมนคอติซอลนี้มีผลในการขัดขวางการสร้างเซลล์ประสาทใหม่

ด้วยประโยชน์และคุณค่าจากยาดีที่มอบให้โดยสัตว์เลี้ยงของเรา ทำให้ปัจจุบัน ได้มีการรักษาผู้ป่วยด้วยการใช้สัตว์เลี้ยงบำบัด หรือ Pet Therapy ที่ได้รับการรับรอง

ด้วยงานวิจัยมากมายว่าสามารถเยียวยาด้านจิตใจของเด็กที่ขาดความอบอุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุได้ และมีรายงานจากวารสารสมาคมจิตแพทย์ญี่ปุ่น (Japanese Psychogeriatric Society)

ว่าได้มีการใช้สุนัขที่ถูกฝึกสำหรับการบำบัดมาเป็นอย่างดีในการบำบัดผู้ป่วยสูงอายุที่ได้รับผลกระทบจากภาวะสมองเสื่อม โรคซึมเศร้า และมีอาการทางจิต โดยการให้

ผู้ป่วยได้ใช้เวลาและทำกิจกรรมร่วมกับสุนัข สัปดาห์ละ 90 นาที เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งผลวิจัยทำให้เห็นว่า สุนัขช่วยกระตุ้นการรับรู้ของผู้ป่วยให้ดีขึ้นและสามารถลด

พฤติกรรมจากโรคซึมเศร้าลงได้

รู้แบบนี้แล้วหลายคนคงอยากหาสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงเพื่อช่วยคลายเหงาและบำบัดความเครียด แต่อย่าลืมคำนึงว่าสัตว์เลี้ยงอาจช่วยบำบัดได้แค่อาการเบื้องต้น รวมถึง

เงื่อนไขของผู้ที่รับการบำบัดด้วยที่จะต้องคำนึงถึงสภาพปัญหาและความเหมาะสมกับตัวบุคคล ที่สำคัญเมื่อน้องสัตว์เลี้ยงเยียวยาเราได้ดีแล้ว อย่าลืมที่จะดูแลสัตว์

เลี้ยงของเราอย่างดีด้วย เพราะถือว่าเราเองก็มีหน้าที่รับผิดชอบต่อชีวิตของเค้าด้วยเช่นกัน

ผู้เขียน

นายนพชัย บุญมานันท์

ที่มาของแหล่งข้อมูล
Cr. https://www.nsm.or.th/other-service/1757-online-science/knowledge-invent...
https://www.ishn.com/articles/111499-the-healing-power-of-pets
https://www.pihhealth.org/wellness/blog/the-healing-power-of-pets/
https://www.happyhomeclinic.com/alt11-animaltherapy.htm