วันการบินพลเรือนระหว่างประเทศ

วันที่: 
07 December

องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( International Civil Aviation Organization : ICAO)
เป็นทบวงการช านาญพิเศษ (Specialized Agency) ของสหประชาชาติ ได้ถือก าเนิดขึ้นในวันที่ 7
ธันวาคม พ.ศ.2487 โดยอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (The Convention on
International Civil Aviation) หรือ อนุสัญญาชิคาโก )Chicago Convention ) มีส านักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ
เมืองมอนตริออล ประเทศแคนาดา และมี7 ส านักงานภูมิภาค ซึ่งส านักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก
ตั้งอยู่ ณ กรุงเทพฯ ปัจจุบัน ICAO มีภาคีสมาชิกจ านวน 191 ประเทศ

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
1. ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ )ICAO) โดยเข้า
ร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (Convention on International Civil
Aviation) หรือ อนุสัญญาชิคาโก เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2490

2. ประเทศไทยได้รับเลือกจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ )ICAO) ให้เป็น
สถานที่ตั้งส านักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 เป็นต้นมา โดยกระทรวงคมนาคมได้
จัดสร้างอาคารให้ส านักงานฯ ตั้งอยู่ที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าวบนที่ดินซึ่งได้เช่าจากการรถไฟแห่งประเทศ
ไทย และล่าสุดได้จัดสร้างอาคารหอประชุมแห่งใหม่ให้ส านักงานโดยท าพิธีเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ในปี
พ.ศ. 2547 และจากการเป็นสถานที่ตั้งส านักงานภูมิภาคฯ ท าให้หน่วยงานด้านการบินได้รับประโยชน์อย่าง
มากโดยสามารถขอรับบริการต่างๆ จาก ICAO ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งสามารถเข้าร่วมกิจกรรมการประชุม
สัมมนา ฝึกอบรมต่างๆ ที่ส านักงานฯ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเดินทางไปต่างประเทศซึ่งเป็นผลดีต่อการ
พัฒนาการขนส่งทางอากาศของไทยโดยรวม

3. กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานด้านการบินได้ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการ
ด าเนินงานต่างๆ ของ ICAO เป็นประจ า เช่น การเข้าร่วมประชุมส าคัญต่างๆ การจัดให้ข้อมูลสถิติและ
ความเห็นในประเด็นที่ ICAO ได้ร้องขอ การบริจาคเงินสนับสนุนแผนปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย
การบิน )Aviation Security Plan of Action) รวมทั้ง การแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญไปปฏิบัติงานให้กับส านักงาน
ภูมิภาคฯ และการบริจาคเงินโดยสมัครใจสนับสนุนแผนปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยการบิน
)Aviation Security Plan of Action) ของ ICAO เป็นต้น

4. ประเทศไทยได้รับความช่วยเหลือทางวิชาการ )Technical Co-operation) จากองค์การ
การบินพลเรือนระหว่างประเทศ )ICAO) ในรูปของโครงการ การประชุม การสัมมนาและฝึกอบรมด้าน
ต่างๆ โครงการที่ส าคัญ เช่น TRAINAIR เพื่อยกระดับศูนย์ฝึกการบินพลเรือนให้มีมาตรฐาน ซึ่ง ICAO
ได้คัดเลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้งโครงการในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก รวมทั้งโครงการพัฒนาความ
ร่วมมือเพื่อความปลอดภัยในการบินและความสมควรเดินอากาศต่อเนื่อง (COSCAP) เพื่อยกระดับความ
ปลอดภัยในการเดินอากาศในภูมิภาคอาเซียน ฮ่องกงและมาเก๊า

5. ล่าสุดประเทศไทยและ ICAO ได้จัดท าบันทึกความเข้าใจว่าด้วยโครงการฝึกอบรม
ส าหรับบุคลากรด้านการบินจากประเทศก าลังพัฒนา ลงนามร่วมกันระหว่างเลขาธิการ ICAO และ
5รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม )นายโสภณ ซารัมย์) เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2551 และวันที่ 22 มกราคม
2552 ตามล าดับ ทั้งนี้โครงการฝึกอบรมดังกล่าวจะบริหารร่วมกันระหว่างประเทศไทยกับ ICAO เพื่อ
ช่วยเหลือประเทศก าลังพัฒนาในการพัฒนาบุคลากรด้านการบินในอันที่จะเพิ่มพูนขีดความสามารถด้าน
การบินของประเทศก าลังพัฒนาให้สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานและข้อก าหนดของ ICAO และเพื่อที่จะ
ส่งเสริมความปลอดภัยและพัฒนาการบินพลเรือนระหว่างประเทศ โดยสถาบันการบินพลเรือน ท า
หน้าที่เป็นหน่วยงานด าเนินการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่ได้ปรึกษาหารือกับ ICAO แล้ว และใช้
งบประมาณของส านักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศปีละ
15 ล้าน เป็นระยะเวลา 3 ปี เริ่มโครงการตั้งแต่ ปี 2552-2554