วันตรุษจีน

  โดยก่อนจะถึงวันตรุษจีน อีกหนึ่งวันสำคัญนั้นคือวันจ่าย และวันไหว้ตรุษจีน โดยวันไหว้จะเริ่มตั้งแต่ตอนเช้ามืด คือการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วงสายจะเป็นการไหว้บรรพบุรุษ ขณะที่ช่วงบ่ายไหว้ให้ทานสัมภเวสี และช่วงดึก สำหรับผู้ที่อยากไหว้ขอพรขอโชคลาภ ก็จะมีการไหว้ครั้งที่ 4 เพิ่มเข้ามา มาดูกันว่าการไหว้แต่ละครั้งจะต้องเริ่มในช่วงเวลาไหน และต้องใช้ของไหว้อะไรบ้าง

ช่วงเช้า ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

  ช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 น. โดยจะเป็นการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเทพที่คุ้มครองบ้าน ขอบคุณท่านที่ช่วยดูแลบ้าน ดูแลผู้อยู่อาศัยให้อยู่ร่มเย็น อยู่อย่างมีความสุข โดยจะใช้ของไหว้คือ ชุดซาแซ หมู เป็ด ไก่ ขนมมงคล เช่นขนมเทียน ขนมถ้วยฟู ผลไม้ไม้มงคล เช่น ส้มสีทอง แอปเปิ้ลแดง องุ่น เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง โดยการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะใช้ธูป 3 ดอก

ช่วงสาย ไหว้บรรพบุรุษ

  ต่อมาเป็นการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญู และเพื่อระลึกถึงพ่อแม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว โดยจะไหว้ในช่วงเวลา 10.00 น. หรือเวลาที่ไม่เกินเที่ยง ของไหว้จะประกอบด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน ซึ่งอาจจะเป็นอาหารที่ผู้ล่วงลับชอบ ขนมมงคลต่างๆ ผลไม้มงคล เผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษ เพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ โดยการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะใช้ธูป 3 ดอก

ช่วงบ่าย ไหว้ให้ทานสัมภเวสี

  โดยการไหว้ให้ทานสัมภาเวสี จะไหว้ในช่วงบ่าย ไม่เกิน 16.00 น. ซึ่งจะใช้ธูป 1 ดอก ของไหว้จะเป็นข้าว กับข้าวสวย ขนมต่างๆ กระดาษเงิน กระดาษทอง ซึ่งหลังจากไหว้เสร็จแล้วจะมีการจุดประทัดเพื่อเพิ่มความสิริมงคล และเป็นการขับไล่สิ่งชั่วร้าย

ช่วงดึก ไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ

  ช่วงกลางคืนสำหรับผู้ที่อยากเสริมดวง ความโชคดี ความร่ำรวย และโชคลาภ ก็สามารถไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยในช่วงเวลา 23.00 น. - 01.00 น. ได้ ซึ่งของไหว้จะเป็น รูปปั้นเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย หรือรูปภาพเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย, ธูป 3 ดอก, กระธางธูป, แจกัน-ดอกไม้สด 1 คู่, เชิงเทียน พร้อมเทียนสีแดง 1 คู่, เจฉ่าย 5 อย่าง (เห็ดหอม, เห็ดหูหนู, ดอกไม้จีน, วุ้นเส้น และฟองเต้าหู้ อย่างละ 1 ถ้วย) ข้าวสวย, น้ำชา, ขนมอี้ อย่างละ 5 ถ้วย, ผลไม้มงคล 5 อย่าง เช่น ส้มสีทอง, แอปเปิ้ลแดง, สาลี่, องุ่น, กล้วยหอม และกระดาษเงิน กระดาษทอง